เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าเด็กคนนั้นมันต้องใส่รองเท้าของผู้ใหญ่อย่างแน่นอน
ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นก็แปลว่าเขาสวมถุงเท้าขนาดใหญ่แล้วเหยียบไว้บนรองเท้าของตัวเอง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมมันถึงได้กล้าที่จะวิ่งออกนอกเมือง ! นี่แหละคือเหตุผล ! หัวใจที่ผิดหวังของหลิงเทียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง
หลิงเทียนถามกับตัวเองว่า
“ ถ้าหากข้าเป็นมัน ข้าจะไปทางไหนกัน ?
”
หากตรงไปด้านหน้าก็จะเป็นเส้นทางหลวง
; เนื่องจากองค์กรที่ไล่ล่าเด็กชายคนนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าไม่ใช่เพียงแค่องค์กรเล็กๆ
แน่นอนว่าเขาต้องไม่ใช้เส้นทางนี้แน่นอน ด้วยสภาพอากาศเช่นนี้ หากมันยังกล้าไปถนนสาธารณะเส้นนี้ก็คงเป็นการมอบตัวดีๆนี่เอง
ส่วนทางด้านขวานั้นเป็นทิศทางที่เหล่าชายชุดดำนั้นไล่ตามไป
มีควันลอยขึ้นมาจากที่ไกลๆ
ด้วยการที่มันเป็นผืนป่าขนาดใหญ่นั้นจึงดูเหมือนว่ามีเป็นสถานที่ๆดีที่จะซ่อนตัว
แต่อย่างไรก็ตาม ความจริงมันอาจจะไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป ทุกๆคนอาจจะคิดว่าสถานที่นั้นเป็นที่ๆดีที่สุดที่จะซ่อนตัว
แต่ที่จริงแล้วสถานที่ที่ดีที่สุดนั้นมันจะกลายเป็นที่ๆจะทำให้มันถูกพบเจอได้ง่ายที่สุด
ส่วนเส้นทางด้านซ้ายเป็นเพียงถนนแคบๆเส้นหนึ่งกับรอยเท้าที่มีน้อยลง
นอกจากนี้
มันเป็นพื้นที่ราบลุ่มที่ดูไม่สามารถหลบซ่อนได้จนกว่าจะไปถึงหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ไกลออกไป
มันเป็นถนนแคบยาวและไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดด้านข้างเลยแม้แต่น้อยมีเพียงต้นไม้เพียงเล็กๆน้อยคอยประดับอยู่ตามทาง
.
เห็นได้ชัดเลยว่าสถานที่นี้เป็นที่ๆไม่สมควรจะไปหากต้องการหลบหนีและรักษาชีวิตของตน
แต่ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการหลบหนีของหลิงเทียน
เส้นทางนี้คือเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด ! หลิงเทียนยิ้มอยู่ในใจ ; ถ้าหากเจ้าเลือกเส้นทางนี้ล่ะก็
ข้าจะช่วยเจ้า แต่ถ้าหากเจ้าไม่ได้เลือกเส้นทางนี้
ข้าจะไม่ช่วยเจ้าถึงแม้ว่าเจ้าจะตายต่อหน้าข้าก็ตาม !
เพราะนั่นหมายความว่าเจ้านั้นไม่มีค่าพอให้ข้าต้องช่วย !
หลิงเทียนกลายเป็นเพียงแสงกระพริบในบริเวณที่ยืนอยู่ก่อนหน้านี้และพุ่งไปถนนด้านซ้ายราวกับสายฟ้า
....
ในหมู่บ้านเล็กๆที่ดูอ้างว้างนี้มีครอบครัวอาศัยอยู่เพียงไม่กี่ครอบครัวเท่านั้น
บางเวลาก็อาจจะมีใครสักคนโดยสารมาโดยทางเดินแคบๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่ดูหิวโหย
ทั้งหมู่บ้านนั้นเงียบสงบเป็นอย่างมากและดูอ้างว้างเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ชวนหดหู่ไปทั่วแม้ในบางเวลาก็มีเสียงเห่าหอนของสุนัขมาบ้าง
ขณะที่หลิงเทียนนั้นเดินอยู่ตามลำพังบนถนน
สายตาของเขาก็ตรวจสอบไปรอบๆและค้นหาสถานที่ๆเป็นไปได้ที่จะซ่อนตัว ถ้าหากเด็กชายผู้นั้นหนีมาได้ไกลเช่นนี้ล่ะก็
มันก็จะเหมาะสมกับความคาดหวังของเขา
เมื่อทุกคนในหมู่บ้านนี้มองเห็นเด็กหนุ่มแต่งตัวดีคนนี้
พวกเขาต่างก็แสดงความหวาดกลัวออกมาผ่านสีหน้าของพวกเขา . เหตุใดนายน้อยของตระกูลที่ดูร่ำรวยถึงมาอยู่ที่นี่ ?
หลิงเทียนเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็ว
, เขาเดินสำรวจไปรอบๆหมู่บ้านทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้เขายังเลือกหาสถานที่หลบซ่อนที่ดีที่สุดภายในหมู่บ้านนี้และก็พบที่ซ่อนตัวที่ดีที่สุดถึงสามจุดด้วยกัน
การทดสอบพวกคนโง่เขลาที่ชอบใช้แต่กำลังได้เริ่มขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ หากเจ้าต้องการให้ข้าช่วยล่ะก็ มันก็ขึ้นอยู่กับด่านทดสอบสุดท้าย !
ขั้นแรก
เด็กคนนั้นต้องหนีไปเรื่อยๆอย่างน้อยที่สุดมันต้องมาให้ถึงที่นี่
ซึ่งนี่เป็นเกณฑ์ขั้นพื้นฐาน . นอกจากนี้
จากการเลือกสถานที่ซ่อนตัวของเด็กคนนั้น , หลิงเทียนก็จะสามารถบอกได้ว่าคนผู้นี้มีความเด็ดเดี่ยวแค่ไหน
. การที่มันสามารถวิ่งมาถึงที่นี่จากในเมืองก็แสดงให้เห็นได้ว่าเด็กคนนั้นต้องมีร่างกายที่ดี
และถ้ามันสามารถหนีจนกระทั่งมาถึงที่นี่ มันก็ยังต้องใช้ความคิดมากมายในการวางแผนการหลบหนีของมันอีก
แต่แค่นั้นมันยังไม่เพียงพอ !
เพื่อที่จะสามารถตอบสนองในความคาดหวังของเขาได้
มันต้องหลบซ่อนตัวเองทันทีหลังจากมาถึงที่นี่ ! นอกจากนั้นแน่นอนว่ามันต้องการอาหารหลังจากใช้พลังงานในร่างกายไปจำนวนมาก
แต่ถ้าหากว่ามันจะกล้ามาขอหรือขโมยอาหารในหมู่บ้านช่วงเวลาแห่งความเป็นตายนี้ แน่นอนว่ามันจะเป็นการเปิดเผยตัวตนของตัวมันเองออกมา
ดังนั้นบททดสอบนี้คือมันต้องแสดงความอดทนให้มาก !
ที่ซ่อนทั้งสามจุดที่หลิงเทียนได้เลือกมานั้นก็มีการจัดอันดับเช่นกัน
บ้านของคนผู้หนึ่งที่อยู่ท้ายหมู่บ้านนั้นเป็นคนที่ต่ำต้อยที่สุดในบรรดาทุกคนที่อยู่ที่นี่
แม้ว่ามันจะช่วยปกปิดตัวตนได้ดี แต่ก็อันตรายที่สุดเช่นกัน
ถ้าหากหมู่บ้านถูกปิดล้อม มันก็จะไร้โอกาสให้หลบหนีได้อีก
ที่ซ่อนที่สองอยู่ทางฝั่งซ้ายสุดของหมู่บ้านซึ่งอาจจะถูกค้นหรืออาจจะถูกมองไปเลยก็ได้
แต่อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องวิ่งผ่านไปทั่วทั้งหมู่บ้านก่อนที่จะมาถึงที่ๆหลบซ่อนจุดที่สอง
ที่ซ่อนตัวอีกจุดหนึ่งเป็นจุดที่หลิงเทียนนั้นพึงพอใจที่สุดนั่นก็คือกองขยะหน้าทางเข้าหมูบ้านซึ่งดูไม่มีทางที่จะซ่อนใครไว้ได้
!
ถ้าหากว่าเด็กคนนั้นเลือกที่จะซ่อนที่นั่น
สติปัญญาของมันก็คงจะเรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่น่ากลัว ! ถ้าหากมันเลือกที่นั่นล่ะก็แปลว่ามันต้องเป็นคนที่ใจกล้าเป็นอย่างมากเพราะว่าที่นั่นเป็นที่แรกที่ศัตรูจะได้เห็น
มันต้องพิถีพิถันมากพอสมควรในการค้นหาจุดซ่อนตัวที่ถูกต้องในทันทีที่เข้ามาถึง
นอกจากนี้ มันก็ยังต้องมีความเข้าใจในจิตใจของมนุษย์และจิตวิทยาพอสมควรถ้าเลือกจุดซ่อนตรงนี้
!
สถานที่นั้นมันสามารถมองเห็นได้ชัดจนเกินไปจนไม่เหมาะจะเป็นจุดซ่อนตัว
ดังนั้นจุดนี้จึงมักจะถูกศัตรูมองข้ามอยู่เสมอและวิ่งเข้าไปค้นหาในหมู่บ้านแทน ! ต่อให้พวกมันค้นหาไปทั่วทั้งหมู่บ้านแล้วก็ตาม
สถานที่แห่งนี้ก็จะยังไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คน แต่หากจะให้ดีที่สุดคือมันจะต้องไม่ผ่านเข้าไปหมู่บ้านและต้องไม่ทิ้งร่องรอยไว้
ถ้าหากเด็กคนนั้นสามารถหนีมาถึงที่นี่แต่ไม่ได้อยู่ในจุดซ่อนตัวทั้งสามที่เขาค้นพบ
หลิงเทียนก็จะยอมแพ้ต่อมัน ! ในใจของหลิงเทียน
เขานั้นต้องการเพียงแค่ตัวหมากที่สามารถใช้ได้และมีศักยภาพที่ดีเท่านั้น ! ถ้าหากมันไม่มีศักยภาพ หลิงเทียนก็จะไม่มองมาที่มันอีกเป็นครั้งที่สอง !
หลิงเทียนตัดสินใจที่ตะเริ่มค้นหาจากด้านหลังของหมู่บ้าน
หลังจากที่เขาเข้ามาและมองไปรอบๆ หลิงเทียนก็พลิกตัวหันหลังกลับไป . ‘ ที่นี่ไม่มีใคร ! ’
หลิงเทียนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา
แสดงว่าเด็กคนนั้นต้องหนีจนกระทั่งมาถึงที่นี่แน่นอน ! เพียงแค่เขายังไม่รู้เท่านั้นว่ามันไปหลบอยู่ที่ไหน
ด้วยความสุขเล็กน้อย
หลิงเทียนก็ไปต่อทางด้านซ้ายของหมู่บ้าน
สถานที่แห่งนี้เป็นคลังเสบียงที่ถูกทิ้งร้าง ผนังบ้านนั้นดูทรุดโทรมทำให้ลมหนาวพัดไปทั่วทั้งบ้าน
ขณะที่หลิงเทียนเดินเข้ามา
เขาไม่สามารถหารอยเท้าใดๆบนพื้นได้เลย หลังจากพิจารณาเพียงชั่วครู่
หลิงเทียนก็ตัดสินใจเดินหาต่อ
มีพุ่มหญ้าแห้งเล็กน้อยถูกวางไว้รอบๆ
เห็นได้ชัดว่าในคลังเสบียงร้างนี้มีพื้นที่ไม่มากนัก หลิงเทียนมองไปรอบๆสถานที่แห่งนี้และเดินไปหยุดอยู่ตรงกลางของคลังเสบียงร้างก่อนจะโคจรพลังภายในและกระจายคลื่นพลังออกไปเพื่อจับความเคลื่อนไหวรอบตัวเขา
ครู่ต่อมา
มุมปากของหลิงเทียนก็ยกขึ้น
ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มที่ดูเบิกบานออกมาอย่างไม่มีปิดบัง
ใช่ , ในที่รกร้างแห่งนี้มีเสียงลมหายใจอันแผ่วเบาอยู่
เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าเด็กคนนั้นหนีมาอยู่ที่นี่
หลิงเทียนพึงพอใจอย่างมาก
! แม้ว่าเขาจะไม่ได้เลือกจุดที่หลิงเทียนคิดว่าดีที่สุด
แต่เขาก็ยังคงระมัดระวังตัวและรอบคอบอย่างมาก
ดูจากวิธีที่เขาสามารถซ่อนตัวอยู่ที่นี่และลบร่องรอยบนพื้นหิมะได้ทั้งหมด
ถ้าหากคนที่มาค้นหายังที่แห่งนี้ไม่ใช่คนที่มีลมปราณในขั้นเซียนเทียนเช่นหลิงเทียนแล้วล่ะก็
มันผู้นั้นจะไม่มีทางค้นหาเด็กหนุ่มผู้นี้เจอแน่นอน
หลังจากพบเจอผู้คนมากมาย
ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเลยที่รู้จัก “ พลังภายใน ”
หลิงเทียนยิ้มด้วยความพึงพอใจก่อนจะเดินตรงไปข้างหน้าและหยุดอยู่ตรงกองหญ้าแห้งกองหนึ่ง
จากนั้นเขาก็พูดออกมาเบาๆ “ ออกมาได้แล้ว เลิกซ่อนตัวสักที
ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ข้างในนี้ ”