บทที่ 19 : บิดาและบุตรผู้ชั่วร้าย




สายลมหนาวพัดกระเซ็นมากระทบกับใบหน้า หิมะได้หยุดร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าแล้วและผืนดินก็ยังคงถูกคลุมไปด้วยสีขาว


หลิงเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังถูกตบหน้าด้วยความแรง ! ในตอนนี้ เขาไม่เคยรู้สึกหดหู่ใจมากเท่านี้มาก่อน


มองไปที่หิมะสีขาวบริสุทธิ์รอบๆตัว ทุกสียกเว้นเพียงสีขาวนั้นจะทำปฏิกิริยาภายใต้ผลกระทบจากสีขาวซึ่งจะทำให้ดูเตะตามาก และทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้แต่ตัวเขา , หลิงเทียนกลับสวมชุดสีดำทั้งตัว ! [ TL : ไอ้บ้า ]


หลิงเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าจิตใจของเขาถูกกระทืบอย่างรุนแรง ; เขาหัวเราะเยาเย้ยในความโง่ของตัวเองในใจ มันดูเหมือนกับว่าเขาทำตามแบบแผนโบราณมากเกินไปและไม่รู้จักหาแผนสำรองและวางแผนให้สมกับสถานการณ์ หลิงเทียนถอนหายใจก่อนจะหยุดหัวเราะเยาะตัวเองก่อนวิ่งผ่านสิ่งก่อสร้างต่างๆไปอย่างเงียบเชียบ


ถึงแม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์มากกว่าสามสิบปีแต่เมื่อเทียบกับจิ้งจอกเฒ่าทั้งหลายที่อยู่ในโลกแห่งนี้ประสบการณ์ของเขาจึงได้กลายเป็นปัญหา ! นอกจากนี้ประสบการณ์ส่วนใหญ่ของเขานั้นมาจากอีกโลกหนึ่งและเขาก็เป็นเพียงคนเดียวในโลกใบนี้ที่มาพร้อมกับประสบการณ์พวกนั้น ถ้าหากว่าเขายังคงไม่ยอมเปลี่ยนแปลงและโอนอ่อนไปตามสถานการณ์ของโลกนี้และยังคงใช้แต่ประสบการณ์จากโลกเก่าล่ะก็ จะมีเพียงความวิบัติเท่านั้นที่จะรอเขาในตอนท้าย !


แนวคิดและแบบแผนของเขาจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง !


ในอดีตชาติของเขานั้นเขาเพียงแค่เผชิญกับการถูกกดขี่จากตระกูลสายเลือดตรงและถูกผลักดันให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายทำให้ต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมานจนกระทั่งเขาตายลงไป แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาต้องเผชิญในปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงความขัดแย้งภายในตระกูลเท่านั้น แต่รวมไปถึงการคานอำนาจของตระกูลตนและตระกูลอื่นๆอีกด้วย ในความเป็นจริง สิ่งที่เขาต้องเผชิญในโลกใบนี้นั้นแน่นอนว่ายุ่งยากเพราะไม่ใช่แค่เพียงบางตระกูลหรือแค่บางอาณาจักร แต่คือทั่วทั้งโลก !


ในชีวิตนี้ แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเขานั้นดูเหมือนว่าจะสงบ แต่เป็นเพราะความจริงในชาติที่แล้วเขาเคยประสบพบเจอและผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดมาแล้ว ! อย่างน้อยที่สุดในชาตินี้หากเขาเกิดทำผิดพลาด เขาจะยอมตกตายและปล่อยให้วิญญาณแตกสลายไปแต่อย่างน้อยก็ต้องทำให้ตระกูลของเขาถูกจารึกในประวัติศาสตร์ ! ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกระทำและวางแผนอย่างรอบคอบ


หนึ่งต้องรู้ก่อนว่าตั้งแต่ที่ความทรงจำของทั้งสองโลกผสานกันในโลกนี้ รับประกันได้เลยว่าจุดจบของเขานั้นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน การลุกขึ้นสู้อย่างฉับพลันในคราวนี้ของเขานั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันเป็นความจริงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ! อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเผยตัวไปแล้วเขาก็คงต้องยอมเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาคิด !


หลิงเทียนส่ายหัวเบาๆก่อนจะสลายความคิดอันน่าวิตกซึ่งกำลังก่อตัวอยู่ในหัวของเขาออกไป รอยยิ้มที่เหมือนจะไม่แยแสต่อสิ่งใดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เช่นนั้นข้า, หลิงเทียนจะเริ่มไขว่คว้าหาพลังเพื่อเล่นกับโลกใบนี้เอง !


สิ่งนี้ทำให้หลิงเทียนระลึกถึงนวนิยายที่มีชื่อเสียงที่เขาเคยอ่านในชาติที่แล้ว ตัวเอกเคยกล่าวไว้ว่า ใครก็ตามที่เหี้ยมที่สุดก็จะมีชีวิตที่ยืนยาวที่สุด ! ”


ครั้งแรกที่หลิงเทียนอ่านนิยายเล่มนั้นก็เมื่อตอนที่เขาอายุสิบสามปี ในตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของวลีนี้นัก เขาได้ตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงของวลีนี้ก็คือเมื่อตอนที่การบ่มเพาะทั้งหมดของเขาถูกทำลายและความหวังทั้งหมดของเขากลับกลายเป็นเพียงฝุ่น เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านั้นก็เพราะเกิดจากความอ่อนโยนและจิตใจอ่อนแอของเขา ; ถ้าเขาใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดในการต่อสู้เพื่อให้เขาได้รับความชอบธรรมในครานั้น ถึงแม้จะล้มเหลวในที่สุดแต่จุดจบของเขาอย่างน้อยก็จะไม่อนาถอย่างที่เป็นในปัจจุบัน


อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่กรณีเดียวเท่านั้น ศัตรูของหลิงเทียนนั้นก็มีข้อผิดพลาดอยู่เช่นเดียวกันก็คือความใจอ่อนและสุดท้ายพวกมันก็ได้ตกตายลงเพราะสิ่งนี้ พวกมันควรที่จะถอนรากถอนโคนหลังจากที่พวกมันได้ทำลายการบ่มเพาะของหลิงเทียน อย่างไรก็ตามด้วยความเมตตานี้ สุดท้ายพวกมันก็ถูกหลิงเทียนที่พิการเพราะถูกทำลายการบ่มเพาะลากไปตายพร้อมกัน ; นี่คล้ายกับเป็นการขุดหลุมฝังศพตัวเอง !


นี่คือจุดอ่อน ! ข้าจะกำจัดจุดอ่อนนี้ ! ความคิดอันคับแคบของข้าในชาติที่แล้วส่งผลให้ข้าไม่แข็งแกร่งพอ ซึ่งมันก็คือจุดอ่อน ! พวกมันต้องถูกเปลี่ยนแปลง !


ก๊ะๆๆ , ความเห็นใจอย่างนั้นหรือ ? สิ่งเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกครั้ง ! ใครก็ตามที่เป็นศัตรูของข้า ข้าจะไม่มีวันให้พวกมันมีโอกาสเอาคืน !


หลังจากที่คิดได้ถึงจุดนี้ หลิงเทียนพลันรู้สึกว่าร่างกายของเขาได้รับการผ่อนคลายราวกับว่าโซ่ตรวนในใจของเขานั้นถูกทำลายออกไป หลิงเทียนปล่อยลมหายใจที่ดูอิ่มเอมใจออกมาซึ่งในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ทำให้ปรากฏหมอกขาวออกมาจากลมหายใจของเขา , ร่างของหลิงเทียนทะยานไปบนอากาศ พุ่งหายไปจากตำแหน่งเดิม


ตำหนักทางฝั่งตะวันตก ยามค่ำคืน


ด้านในตำหนัก ภายในห้องใหญ่ หลิงเฉินนอนอ่อนแรงอยู่บนใต้ภายใต้ผ่าห่มบางๆ ตาของเขาดำคล้ำและบวมเป่งราวกับหมีแพนด้า ร่างกายช่วงบนนั้นเปลือยเปล่าเผยให้เห็นรอยแผลและรอยฟกช้ำ


ข้างๆหลิงเฉินนั้นหลิงคงได้ถือยาทาไว้ที่มือข้างหนึ่งอีกข้างหนึ่งก็คอยพันผ้าพันแผล มันกำลังช่วยเปลี่ยนห่อยาให้กับบุตรชายของมัน ภายในคืนเดียวเป็นครั้งที่สองแล้วที่ต้องเปลี่ยนผ้าพันแผล


ขณะที่นอนร้องโอดโอยอยู่บนเตียง หลิงเฉินมองไปที่บิดาของมัน ดวงตาเล็กๆของมันนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจและพูดว่า ท่านพ่อ เรื่องนี้ข้าจะไม่ลืมง่ายๆ ! ”


หลิงคงจัดการกับผ้าพันแผลที่อยู่ในมือขณะที่พูดว่า แน่นอนเราไม่จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ ! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มันไม่ชอบมาพากล เฉินเอ๋อ เมื่อวานนี้ ตอนที่ข้าส่งเจอไปเจอกับเจ้าเด็กนั้น ไม่ใช่เจ้าบอกว่ามันนั้นดูอบอุ่นกับเจ้ามากไม่ใช่รึ ? แล้วเหตุใดเรื่องราวเช่นนี้ถึงเกิดขึ้นหลังจากผ่านไปเพียงแค่ครึ่งวัน ?


เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หลิงเฉินช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ ข้าข้าก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทุกๆอย่างนั้นเกิดขึ้นเร็วมา ไอ้เด็กเหี้!นั่นอยู่ๆก็ทำท่าราวกับเป็นคนบ้าและเริ่มทุบตีข้าโดยที่ข้านั้นก็ยังไม่ทันตั้งตัว ! ”


ได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหลิงคงเผยรอบยิ้มที่น่ากลัว ไอ้เด็กนรกนั่นกำลังรนหาที่ตาย ! พฤติกรรมที่ผิดปรกติเช่นนี้มีเพียงการกระทำของปีศาจเท่านั้น ! มันเหมือนกับที่ข้าคิด


หลิงเฉินถามด้วยความงุนงง ท่านพ่อก็คิดเหมือนกันหรือว่าไอ้เด็กเหี้!นั้นทำตัวแปลกๆในวันนี้ ?


หลิงคงตอบกลับเลยเผยรอยยิ้มที่ดูลึกลับ บิดาเองก็พูดไม่ได้ว่าไอ้เด็กนรกนั้นทำอะไรผิดปรกติไปในวันนี้ แต่ว่าไอ้เด็กนรกนี้ก็ไม่เคยทำตัวปรกติมาตั้งแต่มันเกิดอยู่แล้ว ! ฮึ่ม ! ตั้งแต่ที่ชูถิงเอ๋อร์ก้าวเข้ามาในตระกูลหลิง ข้าได้สั่งให้คนเอาหญ้าพรากกำเนิด ( Heir Severing Grass ) ใส่ไปในอาหารของนางอย่างลับๆ ! สตรีคนใดก็ตามที่กินสมุนไพรนี้เข้าไปจะไม่มีทางที่จะมีทายาทไปตลอดชีวิต ! แต่ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องผิดพลาดจนทำให้นางตั้งครรภ์และให้กำเนิดไอ้เด็กเวรนี้ขึ้นมา ! ” ขณะที่เขาพูด ใบหน้าของเขาก็ยิ่งบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ


หลิงเฉินพลันลุกขึ้นนั่ง การแสดงออกของมันแสดงให้เห็นว่าตื่นเต้นจนเนื้อตัวสั่นไปหมดก่อนจะพูด ถ้าหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเหตุใดไอ้เด็กนี้ถึงได้เกิดขึ้นมาได้ ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาแอบไปเก็บเด็กมันมาอย่างลับๆ ? ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ตราบใดที่ตั้งเป้าไปที่เรื่องนี้และเผยมันออกมาได้ ตระกูลหลิงก็จะยังคงเป็นของเรา ! ”


หลิงคงถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังก่อนจะตอบ เจ้าเด็กนี้แน่นอนว่าเป็นบุตรของหลิงเซียวกับชูถิงเอ๋อร์ ปีนั้น เมื่อข้าได้ยินว่าชูถิงเอ๋อร์นั้นมีเด็กในท้อง ข้าก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เช่นกัน ; ดังนั้นข้าก็เลยเดินทางไปไกลก่อนจะลักพาตัวครอบครัวของแพทย์จากเมืองหลวงนามว่า เย่เหมิงเยวี่ย และพามันมาวิเคราะห์อาการของนางที่ตระกูลหลิง ถ้าหากว่ามันผิดพลาด ข้าก็จะทำให้เจ้ากลายเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหลิง ! แต่เรื่องมันกลับตาลปัตร หลังกจากที่เย่เหมิงเยวี่ยตรวจดูอาการแล้วมันก็ยืนยันว่ามีเด็กอยู่ในท้องนางจริงๆ ! ”


ใบหน้าของหลิงเฉินกลายเป็นโหดเหี้ยม นี่อาจจะเป็นเพราะเย่เหมิงเยวี่ยนั้นสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลหลิงเพื่อทำให้เราหลงกลก็เป็นได้ ! ”


หลิงคงทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นเท่านั้น ข้าก็คิดได้ถึงปัญหานี้ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงพาหมอทั้งหกคนมาที่ตระกูลหลิงเพื่อวินิจฉัยอีกครั้ง พวกมันทั้งหมดกล่าวเช่นเดียวกันว่านางนั้นกำลังตั้งครรถ์ ! อย่างไรก็ตาม เมื่อตอนนั้นข้าก็ได้ตัดสินใจเดิมพันทั้งหมดและให้ใครบางคนไปวางยาพิษเพื่อให้นางตกตาย ข้าจัดการเรื่องนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่โอกาสที่มีอยู่ๆก็จางหายไป ! เมื่อตอนที่ข้ายังไม่ทันได้เตรียมตัว เด็กก็เกิดขึ้นมาแล้วหลิงคงพ่นลมหายใจยาวออกมาก่อนจะทุบไปที่เตียงอย่างรุนแรง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งก่อนจะพูดต่อ แต่เรายังคงมีโอกาส ! ตราบใดก็ตามที่ข้าหาเวลาเหมาะสมและเราสามารถกำจัดไอ้เด็กเวรนั่นออกไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เมื่อนั้นตระกูลหลิงก็จะยังเป็นของของข้า ! ”


ลักษณะที่ดูอ่อนเยาว์ของหลิงเฉินพลันกลายเป็นชั่วร้าย ในสายตาของมันนั้นปรากฏความวิกลจริตไม่น้อยไปกว่าบิดาของมัน


หลังจากความเงียบปกคลุมภายในห้อง หลิงคงพลันหัวเราะอย่างชั่วร้ายและพูดว่า หลังจากที่ไอ้เด็กเหี้!นั่นเกิด ฟาร์มปศุสัตว์ทางตะวันตกเฉียงเหนือก็เกิดวิกฤต ไอ้จิ้งจอกเฒ่านั่นก็ได้ส่งข้าไปดูแล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าไม่มีโอกาสที่จะจัดการกับไอ้เด็กนั่น แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดห้าปี ฟาร์มปศุสัตว์ทางตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมดก็กลายเป็นของเรา ! ฮ่าๆๆ ฟาร์มปศุสัตว์ทางตะวันตกเฉียงเหนือเป็นหนึ่งในรายได้หลักของตระกูลหลิง ด้วยเสาหลักดังกล่าวนั่นอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า ตราบใดที่ข้าเริ่มแผนการขึ้น เมื่อนั้น หึหึๆๆ เคี้ยกๆๆ… ”


ทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอันน่าสยดสยองและน่ารังเกียจจากบิดาและบุตรคู่นี้ ราวกับว่าทั้งตระกูลหลิงนั้นตกอยู่ในมือของพวกมันทั้งคู่….


หลังจากนั้น พวกมันก็คุยกันเรื่องอื่นต่อ เช่นวิธีการควบคุมตระกูลหลิงโดยสมบูรณ์ และวิธีชำระแค้นกับสมาชิกบางคนในตระกูลหลิง เป็นต้น