บทที่ 10 จัดฉากให้จักรพรรดินี




หลิงเทียนเกือบจะหัวเราะออกมา ในที่สุดเขาก็ได้ยินบทพูดอันสุดแสนจะคลาสสิค


ในชาติที่แล้ว เขามักจะถูกน้องสาวของเขาลากไปดูละครหลากหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งละครพวกราชวงศ์ชิง ในเรื่องนี้มักจะมีคำพูดพวกนี้ออกมาอยู่เสมอ โดยเฉพาะวลีคลาสสิคที่หลิงเทียนชอบมากที่สุดก็คือ จักรพรรดิเสด็จแล้ว ! ” ตั้งแต่มาเกิดใหม่นี้เขาก็คิดว่าคงไม่ได้ยินมันหรอกซึ่งใครเล่าจะคิดว่าโลกใหม่ใบนี้กลับมีผู้ที่ตะโกนประโยคสุดแสนจะโบราณนี้ออกมา ? หลิงเทียนทำได้เพียงคิดขำๆในใจ อย่าบอกข้านะว่าประโยคนี้ตามข้ามาชาติที่แล้ว ?


ขณะที่ทุกคนกำลังยืนขึ้นเพื่อถวายความเคารพ ชายอายุราว 30 ปีในชุดคลุมสีเหลืองเดินเข้ามาในห้องโถงอย่างช้าๆ รูปร่างของเขาดูสมดุลแต่ดูมีน้ำหนักมาพอสมควร จมูกและปากของเขายกขึ้นเผยให้เห็นรัศมีของผู้มีอำนาจ ข้างๆของเขามีสาวสวยสองคนยืนขนาบอยู่คนละข้าง สาวงามสองนางนี้มีความงดงามแตกต่างกันในแบบของตัวเอง


หลิงเทียนรู้ว่าหนึ่งในสองสาวงามนี้คือป้าของตัวเอง เพียงมองแค่ครั้งเดียวเขาก็ระบุได้ทันทีว่าเป็นคนไหน บางทีอาจจะกล่าวได้ว่าเขาสามารถดูออกได้เพียงการมองแค่ครั้งเดียว สตรีที่ยืนอยู่ด้านขวาขององค์จักรพรรดินั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาและยังดูไม่เป็นมิตรซึ่งคงไม่ใช่ป้าของเขาแน่นอน ส่วนสตรีที่อยู่ฝั่งซ้ายเต็มไปด้วยความรู้สึกเป็นมิตรและมีใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น แน่นอนสตรีนางนี้คือป้าของเขา มเหสีหลิงหลาน


หลังจากที่ทักทายผู้คนเสร็จสิ้น หลิงหลานวิ่งเข้ามาอุ้มหลิงเทียนจากอกของชู ถิงเอ๋อร์โดยไม่สนสถานะมเหสีเลยแม้แต่น้อยพร้อมกับประเคนจูบบนใบหน้าของหลิงเทียนหลายครั้งจนใบหน้าของเขาแทบจะเต็มไปด้วยน้ำลาย ฮ่าๆๆ, เจ้าหนูน้อย โชคดียิ่งนักที่วันนี้เจ้ายังไม่หลับ ! ป้าของเจ้ามาหาเจ้าถึงหลายครั้งหลายคราแต่เจ้ามักจะหลับลึกเยี่ยงหมูที่เกียจคร้าน เจ้าหนูน้อยหรือชาติที่แล้วเจ้าจะเป็นหมูกันฮึ ? เจ้าหมูโง่ , เจ้าหมูน้อยกลิ่นตัวหอมยิ่งนัก ป้าจะเรียกเจ้าว่าอะไรดี นี่ข้าเป็นป้าของหมูน้อยหลิงเทียนสินะ ฮ่าฮ่าฮ๋า … ”


นี่คือป้าของข้าจริงๆ ? นางดูกล้าหาญยิ่งนัก ! น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เจอนางก่อนหน้านี้ ข้าไม่ควรเอาแต่หลับเลยจริงๆ… ’ หลิงเทียนได้แค่คิดอย่างเสียดาย


ฮ่าฮ่าฮ่า ! พี่สะใภ้ดูสิ เจ้าเด็กน้อยผู้นี้กลิ่นตัวหอมยิ่งนัก เขาเป็นลูกหมูน้อยน่ารักน่าชัง ! เขาช่างงดงามมาก ! อ่าห์ ! มา..มาให้ป้าจูบเจ้าอีกครั้ง ! ” หลิงเทียนจ้องมองไปที่ป้าที่สุดแสนจะวุ่นวายด้วยความโกรธเคือง ยัยป้า แม้ว่าข้าจะเป็นหลานของท่านแต่ข้าก็ไม่ใช่ก้อนแป้ง เวลาท่านลูบไล้จูบข้าด้วยความรุนแรงไปทั้งตัวแบบนี้มันเจ็บนะเฮ้ยยย ! ’


ฮ่าฮ่า , ดูท่าทางของน้องสาวข้าสิ ถ้าหากเจ้าชมชอบในลูกชายของข้านักเหตุใดเจ้าไม่หาเวลามีเด็กกับองค์จักรพรรดิสักคนนึงล่ะ จากนั้นเจ้าก็จะได้เล่นกับเขาทั้งวันไง ฮ่าฮ่าฮ่า.. ” ชู ถิงเอ๋อร์แซวหลิงหลานเบาๆ


โถ่พี่สะใภ้ ท่านเริ่มทำตัวน่าเบื่อแล้วนะ ! … ฮี่ฮี่ เจ้าหนูเทียนของป้า เจ้าช่างดูดียิ่งนัก นี่ๆ ท่านพี่ ดูที่ตาของเจ้าหนูน้อยเทียนสิ ว้าวว ! เขามีตาสองชั้นล่ะ แถมแถมหน้าของเจ้าหนูนี่นุ่มมากน่าหยิ อ้า ! ท่านทำอะไรของท่าน ? เอาเขามาให้ข้านะ ! ” หลิงเซียวไม่อาจเห็นลูกชายของเขาถูกหลิงหลานกลั่นแกล้งได้จึงคว้าลูกชายของตนกลับมา เจ้าเป็นถึงมเหสีแล้วนะ เจ้าช่วยรักษาภาพลักษณ์ของตนสักหน่อยมิได้หรือ ? นี่เจ้าไม่ได้รับการขัดเกลาจากพระราชวังศ์เลยรึไง ? ระวังตัวเถอะจะถูกจักรพรรดิขับไสไล่ส่งเอาได้ ! แล้วนี่ยังมีหน้าให้ข้าปล่อยลูกให้แก่เจ้า ดูหน้าของลูกข้าแดงช้ำไปหมดแล้ว ! ”


ชายในชุดคลุมสีทองเดินตรงเข้ามาหาหลิงเทียนฮ่าฮ่า เราจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ? หลานเอ๋อดูมีชีวิตชีวาหลังจากหลายปีที่ผ่านมา นางยังคงไร้เดียงสาสำหรับเราเสมอนั่นคือสิ่งที่เราชมชอบในตัวของนาง ฮ่าๆๆ มานี่มาเจ้าหนูน้อย ให้ลุงได้กอดเจ้าสักครั้งหลังจากได้ยินเสียงอันอ่อนโยน หลิงเทียนรู้สึกได้ว่ากำลังอยู่ในอ้อมแขนของคนอื่นเขาจึงลืมตาขึ้นมาและมองไปที่ใบหน้าของชายที่ถูกเรียกว่าจักรพรรดิอย่างระมัดระวัง หลิงเทียนมองไปยังดวงตาของจักรพรรดิและมองเห็นอารมณ์ที่แท้จริงของเขาได้อย่างชัดเจน [1]


นี่เป็นข้อดีที่เด็กตัวเล็กๆมี ด้วยใบหน้าของเด็กอายุเพียงหนึ่งปี ทุกคนย่อมลดความระมัดระวังตัวลงและมักจะเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่พวกเขาซ่อนไว้ออกมาเพราะแม้ว่าเด็กน้อยอายุเพียงหนึ่งขวบปีตรงหน้าจะเป็นอัจฉริยะแต่เขาจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร ?


แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลิงเทียนแท้จริงแล้วมีอายุถึง 26 ปี ! และในตอนนี้หลิงเทียนมองเห็นสิ่งที่ซ่อนไว้ภายใต้ดวงตาอันอ่อนโยนของจักรพรรดิ ! บ้างก็มีความสุข บางทีก็แปรเปลี่ยนเป็นความกังวลและความขัดแย้ง หลากหลายอารมณ์ที่ปรากฎออกมาภายใต้ดวงตาของเขาและพวกมันก็สลักลงในความทรงจำของหลิงเทียน


ตามมาด้วยมืออีกคู่หนึ่งที่เข้ามาโอบกอดหลิงเทียน มือคู่นี้คือมือของจักรพรรดินีที่ยืนอยู่ด้านหลังของจักรพรรดิ หลิงเทียนรู้ว่าจักรพรรดินีผู้นี้คือหยางเสวี่ยลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้นำตระกูลหยาง หยางกงซุน หญิงสาวนางนี้เป็นบุคคลที่เขาต้องการจะพบเจอมากที่สุดหลังจากที่รู้ว่ามีใครบางคนต้องการวางยามารดาของเขาและตัวเขาเอง ! หลิงเทียนเงยหน้าขึ้นและมองไปยังหญิงสาวนางนี้ใกล้ๆ


ไม่น่าแปลกใจเลยว่าจักรพรรดินีนางนี้ก้มหน้ามองมายังเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและสนุกสนาน แต่ว่าจากมุมมองของหลิงเทียน เขารับรู้ได้ทันทีเลยว่าในสายตาของนางผู้นี้นั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา ความเกลียดชังและความกังวล ! แต่แม้ว่านางจะเกลียดเขาขนาดไหน นางทำได้เพียงสะกดมันไว้ในใจและฝืนใจพูดออกมา ท่านพี่ เด็กคนนี้น่ารักมาก ! ”


ใบหน้าของหลิงเทียนเต็มไปด้วยความเย็นชา หญิงสาวนางนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นแน่ ! นางคือตัวปัญหาแน่นอนที่สุด ! ในตอนนี้ข้ายังเติบโตไม่เต็มที่และยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ มันจะดีที่สุดหากว่าข้าหาทางที่จะยับยั้งนาง ข้าต้องหาทางลดอำนาจของนาง ! ’


ทันใดนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาบนหน้าของเขา;หลิงเทียนมีความคิดที่ดีในตอนนี้ ทันใดนั้นเขาร้องอู้อี้ออกมาตามประสาเด็กและยื่นมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมา มือนึงจับไปที่เส้นผมที่ปล่อยไหลมาตามแก้มของนางและอีกข้างหนึ่งก็หยิกไปที่ยอดหยกที่อยู่ตรงหน้าของเขาก่อนจะกระชากมันลงมาด้วยความแรง


อ๊า !! ” เสียงหวีดร้องดังขึ้นจากจักรพรรดินีก่อนที่นางจะปล่อยมือทั้งสองของนาง มือหนึ่งของนางจับไปที่ผมขณะที่อีกมือนึงจับไปที่หน้าอกของตัวเอง ส่วนหลิงเทียนตัวน้อยๆก็เริ่มร่วงหล่นไปที่พื้น พื้นของหองโถงนี้ทำมาจากหินปูนที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ทุกๆคนเริ่มร้องอุทานและชู ถิงเอ๋อร์นั้นแทบจะเป็นลมจากความตกใจ


ในขณะที่ผู้คนตกอยู่ในความสับสนในฉากที่กำลังเกิดขึ้นนี้ หลิงหลานผู้ที่อยู่ใกล้ที่สุดได้วิ่งเข้าไปรับหลิงเทียนน้อยก่อนที่เข้าจะตกถึงพื้น !


เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครคาดคิด หลิงเทียนในตอนนี้อยู่ในอ้อมอกของหลิงหลานก่อนที่ทุกคนจะรู้สึกตัวจากความตกใจ อย่างไรก็ตาม ทุกๆคนในที่นี้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจักรพรรดินี้เป็นผู้ปล่อยให้เด็กร่วงลงจากมือ การกระทำของนางดูคล้ายกับไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าแล้ว นอกจากนี้จักรพรรดิและหยางกงซุนที่อยู่ใกล้เด็กนั้นไม่มีปฎิกริยาแม้แต่น้อยกลับกลายเป็นหลิงหลานที่อยู่ไกลออกไปที่วิ่งเข้ามารับ


เวลาต่อมา ทุกคนยังตกอยู่ในความตะลึงและทั่วท้องห้องโถงนั้นตกอยู่ในความเงียบงัน ! ทุกๆคนต่างคิด เลวจริงๆ ! ’ เรื่องนี้ไม่มีทางจบง่ายๆเป็นแน่ ! ทุกคนในตอนนี้กังวลอย่างมาก เรื่องนี้อาจเป็นได้ทั้งเรื่องเล็กๆหรือเรื่องใหญ่ ถ้าหากมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ จักรพรรดิอาจจะห้ามปรามและทำให้เรื่องนี้จบลงได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าหากมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาล่ะก็ อาจจะเป็นไปได้ที่จะเกิดการปะทะกันระหว่างสองตระกูล หากว่าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น สายลมของอาณาจักรครองฟ้าต้องเปลี่ยนไปแน่นอน [ TL : อาณาจักรจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบโครตๆ มหาอำนาจจะขึ้นอยู่กับผู้ชนะ อะไรประมาณนี้ ]


ยังไงก็ตาม สิ่งที่ทุกคนไม่เห็นก็คือรอยยิ้มที่สุดแสนจะยินดีที่ปรากฏบนใบหน้าของหลิงเทียน เส้นผม 20 ถึง 30 เส้นที่อยู่บนมือขวาของเขาได้ปล่อยมันลงพื้นไปอย่างเงียบๆและไม่มีร่องรอยให้สังเกตุเห็นส่วนมือซ้ายของเขา นิ้วชี้และนิ้วโป้งขยี้กันไปมาในขณะที่ใบหน้าของเขาก็ปรากฎรอยยิ้มที่ชั่วร้ายพอได้นึกถึงความรู้สึกที่ได้ขยี้ยอดปทุมถันของหยางเสวี่ย


จักรพรรดินี นี่มันหมายความว่ายังไง ? เหตุใดท่านถึงได้ทำร้ายเด็กตัวเล็กๆเพียงเท่านี้ได้ ? หลิงหลานที่กำลังกอดหลิงเทียนเบาๆในขณะที่นางกำลังหวาดกลัวว่าร่างน้อยๆบนอกของนางจะได้รับบาดเจ็บ ในตอนนี้ความใจเย็นของนางเริ่มลดลงและเริ่มตวาดออกมาเสียงดังด้วยความกล้าหาญต่อหน้าจักรพรรดิ ตามมาด้วยชู ถิงเอ๋อร์ที่วิ่งเข้ามาอย่างงุ่มง่ามเพราะยังอยู่ในอาการช็อค ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยน้ำตาและเข้ามากอดร่างเล็กๆของหลิงเทียนแน่นราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่า ร่างกายของนางสั่นเทาและเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง


ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มของหลิงซานกลับกลายเป็นโกรธเกรี้ยว ดวงตาทั้งสองเปลี่ยนเป็นสีแดงและจ้องไปที่จักรพรรดินีที่กำลังตื่นตระหนกด้วยจิตสังหารอย่างชัดเจน ! แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงหน้าจักรพรรดิแต่เขาก็ไม่ได้ปิดปังความต้องการไว้เลยแม้แต่น้อย ! ใบหน้าของหลิงเซียวนั้นไม่มีการแสดงออกใดๆ แต่มือทั้งสองกลับจับไปที่ด้ามดาบของเขา !


เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการสอบสวนของหลิงหลาน ใบหน้าของจักรพรรดินีกลายเป็นซีดจางและดวงตาทั้งสองของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางตะโกนออกมาอย่างตะกุกตะกัก มะ ไม่ ไม่ใช่นะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ขะ ข้าข้าแค่ , ไม่สิ เจ้าเด็กนี้เขาดึงผมของข้า เขาหยิกข้า เอ่อ ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจทำมันจริงๆนะ ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ! ”


คลื่นจิตสังหารที่มีต่อจักรพรรดินีนั้นเต็มไปทั่วบรรยากาศภายในห้องโถงนี้ ทุกๆคนในตระกูลหลิงต่างเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าในขณะที่มือของพวกเขาคว้าจับไปที่ดาบข้างกาย จักรพรรดินีไม่สามารถแบกรับความกดดันนี้และร้องไห้ออกมา


ใบหน้าของจักรพรรดิกลายเป็นขาวซีดและรีบหันกลับไปตะโกน พวกเจ้า นำจักรพรรดินีกลับไปที่พระราชวังเดี๋ยวนี้ ! ” [TL : น่าจะสั่งพวกขี้ข้า ] ในตอนนี้จักรพรรดิคิดว่านี่เป็นแผนที่สมรู้ร่วมคิดกันระหว่างจักรพรรดินีและบิดาของนาง แต่ยังไงก็ตามแผนการนี้มันโง่เง่าเกินไป; ‘ นี่พวกมันคิดว่าจอมพลและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในที่นี้เป็นพวกโง่เง่า ? พวกมันสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นแล้วข้าจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร ? สายตาอันเย็นชาของเขาจ้องไปที่หยางกงซุน ! ดูเหมือนว่าเข้าจะคาดหวังกับพวกมันมากเกินไป !


เดี๋ยวก่อน ! ” หลิงซานบีบฝูงชนให้ออกไปจากเส้นทางของเขาก่อนจะพูด จักรพรรดินี้กำลังจะออกไปง่ายๆเช่นนี้ ? อย่าบอกข้าว่าท่านจะไม่อธิบายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชายชราผู้นี้ ? เสียงอันเย็นชาดังขึ้นบรรยากาศกลายเป็นหนาวเหน็บราวกับมีลมจากนรกพัดผ่านมา


ดยุคหลิงโกรธสุดๆ !


นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทนได้ ! ตระกูลหลิงมีลูกหลานเพียงคนเดียวรุ่นที่สามและลูกชายของเขาใช้เวลากว่าห้าถึงหกปีหลังจากแต่งงานกว่าจะมีหลิงเทียนออกมา หลังจากการรอคอยอันยาวนานในที่สุดลูกสะใภ้ของเขาก็ได้มอบของขวัญอันล้ำค่าให้กับตระกูลหลิงด้วยเด็กน้อยผู้นี้ ทุกๆคนในตระกูลหลิงต่างระมัดระวังอย่างมากและดูแลเขาอย่างดีที่สุดราวกับว่าเขาเป็นเพียงเต้าหู้ก้อนเล็กๆ แต่พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าในวันที่ควรมีความสุขเช่นนี้หลิงเทียนกลับเกือบจะถูกสังหารโดยหญิงสาวนางนี้แถมยังโจ่งแจ้งต่อสายตาของทุกคน ! นี่มันบ้าเกินไป ! มาจากตระกูลหยางแล้วอย่างไร ? อย่าคิดว่าตาแก่ผู้นี้ไม่กล้าที่จะฆ่าเจ้า !


หยางกงซุนตกอยู่ในความตื่นตระหนกและก้าวออกมาตอบ ดยุคหลิง ทุกๆคนก็เห็นว่านี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ! ” แน่นอนว่าพวกเขานั้นเป็นฝ่ายผผิด หยางกุงซุนได้สูญเสียความหยิ่งยะโสที่เขาได้แสดงออกไปก่อนหน้านี้ทั้งหมดไป เขาได้ลดความหยิงยะโสลงในสถานการณ์เช่นนี้เหตุใดเขาจะต้องกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์อีก ?


หลิงซานหัวเราะออกมาเสียงดังสนั่นและกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง เข้าใจผิด ? ฮ่าๆๆ เข้าใจผิด ? หยางกงซุน ไอ้แก่บัดซบ ! เจ้ายังกล้สบอกว่าเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิด ? หลายของข้าเกือบถูกฆ่าด้วยมือของลูกสาวของเจ้าและเจ้ายังกล้าพูดว่านี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ?! ”


หยางกงซุนเต็มไปด้วยความโกรธหลังจากที่ถูกเรียกว่าไอ้แก่บัดซบ แต่ยังไงก็ตามเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ในขณะที่เหงื่อเต็มใบหน้าของเขา หยางกงซุนจับแขนของหลิงซานและพูด ตาแก่หลิง ฟังข้าดีๆนะ เรื่องนี้มันเป็นการเข้าใจผิด นี่ , นี่บางครั้งอาจจะมีบ้างที่มือมันลื่น… ”


สีหน้าของหลิงซานเปลี่ยนไป มือลื่น ? หยางกงซุน ถ้าหากว่าตาแก่ผู้นี่มือลื่นบ้างล่ะ ? เสียงอันเย็นชาดังขึ้นมาพร้อมกับจิตสังหารที่ทะลักออกมาจากตัวของหลิงซาน ถ้าหากตาแก่อย่างข้ามือลื่นไปโดนหลานทั้งสามของเจ้า หยางกงซุน ไหนเจ้าลองบอกมาสิว่ามันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่ ?! ”
[1]: In China, the emperor likes to address himself as "we" instead of "I".


[1] ในจีน จักรพรรดิมักจะแทนตัวเองด้วยคำว่า เรา ”[We] มากว่าคำว่า ข้า” [I]