หลิงเทียนเกือบจะหัวเราะออกมา
ในที่สุดเขาก็ได้ยินบทพูดอันสุดแสนจะคลาสสิค
ในชาติที่แล้ว เขามักจะถูกน้องสาวของเขาลากไปดูละครหลากหลายเรื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งละครพวกราชวงศ์ชิง ในเรื่องนี้มักจะมีคำพูดพวกนี้ออกมาอยู่เสมอ
โดยเฉพาะวลีคลาสสิคที่หลิงเทียนชอบมากที่สุดก็คือ “ จักรพรรดิเสด็จแล้ว ! ” ตั้งแต่มาเกิดใหม่นี้เขาก็คิดว่าคงไม่ได้ยินมันหรอกซึ่งใครเล่าจะคิดว่าโลกใหม่ใบนี้กลับมีผู้ที่ตะโกนประโยคสุดแสนจะโบราณนี้ออกมา
? หลิงเทียนทำได้เพียงคิดขำๆในใจ ‘ อย่าบอกข้านะว่าประโยคนี้ตามข้ามาชาติที่แล้ว
? ’
ขณะที่ทุกคนกำลังยืนขึ้นเพื่อถวายความเคารพ
ชายอายุราว 30 ปีในชุดคลุมสีเหลืองเดินเข้ามาในห้องโถงอย่างช้าๆ
รูปร่างของเขาดูสมดุลแต่ดูมีน้ำหนักมาพอสมควร จมูกและปากของเขายกขึ้นเผยให้เห็นรัศมีของผู้มีอำนาจ
ข้างๆของเขามีสาวสวยสองคนยืนขนาบอยู่คนละข้าง สาวงามสองนางนี้มีความงดงามแตกต่างกันในแบบของตัวเอง
หลิงเทียนรู้ว่าหนึ่งในสองสาวงามนี้คือป้าของตัวเอง
เพียงมองแค่ครั้งเดียวเขาก็ระบุได้ทันทีว่าเป็นคนไหน บางทีอาจจะกล่าวได้ว่าเขาสามารถดูออกได้เพียงการมองแค่ครั้งเดียว
สตรีที่ยืนอยู่ด้านขวาขององค์จักรพรรดินั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาและยังดูไม่เป็นมิตรซึ่งคงไม่ใช่ป้าของเขาแน่นอน
ส่วนสตรีที่อยู่ฝั่งซ้ายเต็มไปด้วยความรู้สึกเป็นมิตรและมีใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น
แน่นอนสตรีนางนี้คือป้าของเขา มเหสีหลิงหลาน
หลังจากที่ทักทายผู้คนเสร็จสิ้น
หลิงหลานวิ่งเข้ามาอุ้มหลิงเทียนจากอกของชู ถิงเอ๋อร์โดยไม่สนสถานะมเหสีเลยแม้แต่น้อยพร้อมกับประเคนจูบบนใบหน้าของหลิงเทียนหลายครั้งจนใบหน้าของเขาแทบจะเต็มไปด้วยน้ำลาย
“ ฮ่าๆๆ, เจ้าหนูน้อย โชคดียิ่งนักที่วันนี้เจ้ายังไม่หลับ ! ป้าของเจ้ามาหาเจ้าถึงหลายครั้งหลายคราแต่เจ้ามักจะหลับลึกเยี่ยงหมูที่เกียจคร้าน
เจ้าหนูน้อยหรือชาติที่แล้วเจ้าจะเป็นหมูกันฮึ ? เจ้าหมูโง่ , เจ้าหมูน้อยกลิ่นตัวหอมยิ่งนัก … ป้าจะเรียกเจ้าว่าอะไรดี
นี่ข้าเป็นป้าของหมูน้อยหลิงเทียนสินะ … ฮ่าฮ่าฮ๋า …
”
‘ นี่คือป้าของข้าจริงๆ
? นางดู…กล้าหาญยิ่งนัก ! น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เจอนางก่อนหน้านี้
ข้าไม่ควรเอาแต่หลับเลยจริงๆ… ’
หลิงเทียนได้แค่คิดอย่างเสียดาย
“
ฮ่าฮ่าฮ่า ! พี่สะใภ้ดูสิ
เจ้าเด็กน้อยผู้นี้กลิ่นตัวหอมยิ่งนัก เขาเป็นลูกหมูน้อยน่ารักน่าชัง ! เขาช่างงดงามมาก ! อ่าห์ ! มา..มาให้ป้าจูบเจ้าอีกครั้ง ! ” หลิงเทียนจ้องมองไปที่ป้าที่สุดแสนจะวุ่นวายด้วยความโกรธเคือง
‘ ยัยป้า แม้ว่าข้าจะเป็นหลานของท่านแต่ข้าก็ไม่ใช่ก้อนแป้ง
เวลาท่านลูบไล้จูบข้าด้วยความรุนแรงไปทั้งตัวแบบนี้มันเจ็บนะเฮ้ยยย ! ’
“ ฮ่าฮ่า
, ดูท่าทางของน้องสาวข้าสิ ถ้าหากเจ้าชมชอบในลูกชายของข้านักเหตุใดเจ้าไม่หาเวลามีเด็กกับองค์จักรพรรดิสักคนนึงล่ะ
จากนั้นเจ้าก็จะได้เล่นกับเขาทั้งวันไง ฮ่าฮ่าฮ่า.. ” ชู
ถิงเอ๋อร์แซวหลิงหลานเบาๆ
“ โถ่…พี่สะใภ้ ท่านเริ่มทำตัวน่าเบื่อแล้วนะ ! … ฮี่ฮี่
เจ้าหนูเทียนของป้า เจ้าช่างดูดียิ่งนัก นี่ๆ ท่านพี่
ดูที่ตาของเจ้าหนูน้อยเทียนสิ ว้าวว ! เขามีตาสองชั้นล่ะ แถม…แถมหน้าของเจ้าหนูนี่นุ่มมากน่าหยิ… อ้า ! ท่านทำอะไรของท่าน ? เอาเขามาให้ข้านะ ! ” หลิงเซียวไม่อาจเห็นลูกชายของเขาถูกหลิงหลานกลั่นแกล้งได้จึงคว้าลูกชายของตนกลับมา
“ เจ้าเป็นถึงมเหสีแล้วนะ เจ้าช่วยรักษาภาพลักษณ์ของตนสักหน่อยมิได้หรือ
? นี่เจ้าไม่ได้รับการขัดเกลาจากพระราชวังศ์เลยรึไง ? ระวังตัวเถอะจะถูกจักรพรรดิขับไสไล่ส่งเอาได้
! แล้วนี่ยังมีหน้าให้ข้าปล่อยลูกให้แก่เจ้า
ดูหน้าของลูกข้าแดงช้ำไปหมดแล้ว ! ”
ชายในชุดคลุมสีทองเดินตรงเข้ามาหาหลิงเทียน “ ฮ่าฮ่า เราจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ?
หลานเอ๋อดูมีชีวิตชีวาหลังจากหลายปีที่ผ่านมา นางยังคงไร้เดียงสาสำหรับเราเสมอนั่นคือสิ่งที่เราชมชอบในตัวของนาง
ฮ่าๆๆ มานี่มาเจ้าหนูน้อย ให้ลุงได้กอดเจ้าสักครั้ง ” หลังจากได้ยินเสียงอันอ่อนโยน
หลิงเทียนรู้สึกได้ว่ากำลังอยู่ในอ้อมแขนของคนอื่นเขาจึงลืมตาขึ้นมาและมองไปที่ใบหน้าของชายที่ถูกเรียกว่าจักรพรรดิอย่างระมัดระวัง
หลิงเทียนมองไปยังดวงตาของจักรพรรดิและมองเห็นอารมณ์ที่แท้จริงของเขาได้อย่างชัดเจน
[1]
นี่เป็นข้อดีที่เด็กตัวเล็กๆมี
ด้วยใบหน้าของเด็กอายุเพียงหนึ่งปี
ทุกคนย่อมลดความระมัดระวังตัวลงและมักจะเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่พวกเขาซ่อนไว้ออกมาเพราะแม้ว่าเด็กน้อยอายุเพียงหนึ่งขวบปีตรงหน้าจะเป็นอัจฉริยะแต่เขาจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร
?
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลิงเทียนแท้จริงแล้วมีอายุถึง
26 ปี ! และในตอนนี้หลิงเทียนมองเห็นสิ่งที่ซ่อนไว้ภายใต้ดวงตาอันอ่อนโยนของจักรพรรดิ
! บ้างก็มีความสุข บางทีก็แปรเปลี่ยนเป็นความกังวลและความขัดแย้ง
หลากหลายอารมณ์ที่ปรากฎออกมาภายใต้ดวงตาของเขาและพวกมันก็สลักลงในความทรงจำของหลิงเทียน
ตามมาด้วยมืออีกคู่หนึ่งที่เข้ามาโอบกอดหลิงเทียน
มือคู่นี้คือมือของจักรพรรดินีที่ยืนอยู่ด้านหลังของจักรพรรดิ
หลิงเทียนรู้ว่าจักรพรรดินีผู้นี้คือหยางเสวี่ยลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้นำตระกูลหยาง
หยางกงซุน หญิงสาวนางนี้เป็นบุคคลที่เขาต้องการจะพบเจอมากที่สุดหลังจากที่รู้ว่ามีใครบางคนต้องการวางยามารดาของเขาและตัวเขาเอง
! หลิงเทียนเงยหน้าขึ้นและมองไปยังหญิงสาวนางนี้ใกล้ๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าจักรพรรดินีนางนี้ก้มหน้ามองมายังเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและสนุกสนาน
แต่ว่าจากมุมมองของหลิงเทียน
เขารับรู้ได้ทันทีเลยว่าในสายตาของนางผู้นี้นั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา
ความเกลียดชังและความกังวล !
แต่แม้ว่านางจะเกลียดเขาขนาดไหน นางทำได้เพียงสะกดมันไว้ในใจและฝืนใจพูดออกมา
“ ท่านพี่ เด็กคนนี้น่ารักมาก ! ”
ใบหน้าของหลิงเทียนเต็มไปด้วยความเย็นชา
‘ หญิงสาวนางนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นแน่
! นางคือตัวปัญหาแน่นอนที่สุด ! ในตอนนี้ข้ายังเติบโตไม่เต็มที่และยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
มันจะดีที่สุดหากว่าข้าหาทางที่จะยับยั้งนาง ข้าต้องหาทางลดอำนาจของนาง ! ’
ทันใดนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาบนหน้าของเขา;หลิงเทียนมีความคิดที่ดีในตอนนี้
ทันใดนั้นเขาร้องอู้อี้ออกมาตามประสาเด็กและยื่นมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมา
มือนึงจับไปที่เส้นผมที่ปล่อยไหลมาตามแก้มของนางและอีกข้างหนึ่งก็หยิกไปที่ยอดหยกที่อยู่ตรงหน้าของเขาก่อนจะกระชากมันลงมาด้วยความแรง
“ อ๊า !!
” เสียงหวีดร้องดังขึ้นจากจักรพรรดินีก่อนที่นางจะปล่อยมือทั้งสองของนาง
มือหนึ่งของนางจับไปที่ผมขณะที่อีกมือนึงจับไปที่หน้าอกของตัวเอง
ส่วนหลิงเทียนตัวน้อยๆก็เริ่มร่วงหล่นไปที่พื้น
พื้นของหองโถงนี้ทำมาจากหินปูนที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ทุกๆคนเริ่มร้องอุทานและชู
ถิงเอ๋อร์นั้นแทบจะเป็นลมจากความตกใจ
ในขณะที่ผู้คนตกอยู่ในความสับสนในฉากที่กำลังเกิดขึ้นนี้
หลิงหลานผู้ที่อยู่ใกล้ที่สุดได้วิ่งเข้าไปรับหลิงเทียนน้อยก่อนที่เข้าจะตกถึงพื้น
!
เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครคาดคิด
หลิงเทียนในตอนนี้อยู่ในอ้อมอกของหลิงหลานก่อนที่ทุกคนจะรู้สึกตัวจากความตกใจ อย่างไรก็ตาม
ทุกๆคนในที่นี้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจักรพรรดินี้เป็นผู้ปล่อยให้เด็กร่วงลงจากมือ
การกระทำของนางดูคล้ายกับไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าแล้ว นอกจากนี้จักรพรรดิและหยางกงซุนที่อยู่ใกล้เด็กนั้นไม่มีปฎิกริยาแม้แต่น้อยกลับกลายเป็นหลิงหลานที่อยู่ไกลออกไปที่วิ่งเข้ามารับ
เวลาต่อมา ทุกคนยังตกอยู่ในความตะลึงและทั่วท้องห้องโถงนั้นตกอยู่ในความเงียบงัน
! ทุกๆคนต่างคิด ‘ เลวจริงๆ ! ’ … เรื่องนี้ไม่มีทางจบง่ายๆเป็นแน่
! ทุกคนในตอนนี้กังวลอย่างมาก
เรื่องนี้อาจเป็นได้ทั้งเรื่องเล็กๆหรือเรื่องใหญ่ ถ้าหากมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ
จักรพรรดิอาจจะห้ามปรามและทำให้เรื่องนี้จบลงได้อย่างง่ายดาย
แต่ถ้าหากมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาล่ะก็ อาจจะเป็นไปได้ที่จะเกิดการปะทะกันระหว่างสองตระกูล
หากว่าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น สายลมของอาณาจักรครองฟ้าต้องเปลี่ยนไปแน่นอน [
TL : อาณาจักรจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบโครตๆ มหาอำนาจจะขึ้นอยู่กับผู้ชนะ
… อะไรประมาณนี้ ]
ยังไงก็ตาม สิ่งที่ทุกคนไม่เห็นก็คือรอยยิ้มที่สุดแสนจะยินดีที่ปรากฏบนใบหน้าของหลิงเทียน
เส้นผม 20 ถึง 30
เส้นที่อยู่บนมือขวาของเขาได้ปล่อยมันลงพื้นไปอย่างเงียบๆและไม่มีร่องรอยให้สังเกตุเห็นส่วนมือซ้ายของเขา
นิ้วชี้และนิ้วโป้งขยี้กันไปมาในขณะที่ใบหน้าของเขาก็ปรากฎรอยยิ้มที่ชั่วร้ายพอได้นึกถึงความรู้สึกที่ได้ขยี้ยอดปทุมถันของหยางเสวี่ย
“ จักรพรรดินี
นี่มันหมายความว่ายังไง ? เหตุใดท่านถึงได้ทำร้ายเด็กตัวเล็กๆเพียงเท่านี้ได้ ? ”
หลิงหลานที่กำลังกอดหลิงเทียนเบาๆในขณะที่นางกำลังหวาดกลัวว่าร่างน้อยๆบนอกของนางจะได้รับบาดเจ็บ
ในตอนนี้ความใจเย็นของนางเริ่มลดลงและเริ่มตวาดออกมาเสียงดังด้วยความกล้าหาญต่อหน้าจักรพรรดิ
ตามมาด้วยชู ถิงเอ๋อร์ที่วิ่งเข้ามาอย่างงุ่มง่ามเพราะยังอยู่ในอาการช็อค
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยน้ำตาและเข้ามากอดร่างเล็กๆของหลิงเทียนแน่นราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่า
ร่างกายของนางสั่นเทาและเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มของหลิงซานกลับกลายเป็นโกรธเกรี้ยว
ดวงตาทั้งสองเปลี่ยนเป็นสีแดงและจ้องไปที่จักรพรรดินีที่กำลังตื่นตระหนกด้วยจิตสังหารอย่างชัดเจน
! แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงหน้าจักรพรรดิแต่เขาก็ไม่ได้ปิดปังความต้องการไว้เลยแม้แต่น้อย
! ใบหน้าของหลิงเซียวนั้นไม่มีการแสดงออกใดๆ แต่มือทั้งสองกลับจับไปที่ด้ามดาบของเขา
!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการสอบสวนของหลิงหลาน
ใบหน้าของจักรพรรดินีกลายเป็นซีดจางและดวงตาทั้งสองของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
นางตะโกนออกมาอย่างตะกุกตะกัก “
มะ … ไม่ ไม่ใช่นะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ขะ ข้า…ข้าแค่ , ไม่สิ เจ้าเด็กนี้…เขา…ดึงผมของข้า เขาหยิก…ข้า … เอ่อ
ข้า … ข้าไม่ได้ตั้งใจทำมันจริงๆนะ ท่านพี่ช่วยข้าด้วย !
”
คลื่นจิตสังหารที่มีต่อจักรพรรดินีนั้นเต็มไปทั่วบรรยากาศภายในห้องโถงนี้
ทุกๆคนในตระกูลหลิงต่างเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าในขณะที่มือของพวกเขาคว้าจับไปที่ดาบข้างกาย
จักรพรรดินีไม่สามารถแบกรับความกดดันนี้และร้องไห้ออกมา
ใบหน้าของจักรพรรดิกลายเป็นขาวซีดและรีบหันกลับไปตะโกน
“ พวกเจ้า นำจักรพรรดินีกลับไปที่พระราชวังเดี๋ยวนี้
! ” [TL : น่าจะสั่งพวกขี้ข้า ] ในตอนนี้จักรพรรดิคิดว่านี่เป็นแผนที่สมรู้ร่วมคิดกันระหว่างจักรพรรดินีและบิดาของนาง
แต่ยังไงก็ตามแผนการนี้มันโง่เง่าเกินไป; ‘ นี่พวกมันคิดว่าจอมพลและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในที่นี้เป็นพวกโง่เง่า
? พวกมันสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นแล้วข้าจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร ? ’ สายตาอันเย็นชาของเขาจ้องไปที่หยางกงซุน ! ดูเหมือนว่าเข้าจะคาดหวังกับพวกมันมากเกินไป
!
“ เดี๋ยวก่อน
! ” หลิงซานบีบฝูงชนให้ออกไปจากเส้นทางของเขาก่อนจะพูด “
จักรพรรดินี้กำลังจะออกไปง่ายๆเช่นนี้ ? อย่าบอกข้าว่าท่านจะไม่อธิบายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชายชราผู้นี้
? ” เสียงอันเย็นชาดังขึ้นบรรยากาศกลายเป็นหนาวเหน็บราวกับมีลมจากนรกพัดผ่านมา
ดยุคหลิงโกรธสุดๆ !
นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทนได้
! ตระกูลหลิงมีลูกหลานเพียงคนเดียวรุ่นที่สามและลูกชายของเขาใช้เวลากว่าห้าถึงหกปีหลังจากแต่งงานกว่าจะมีหลิงเทียนออกมา
หลังจากการรอคอยอันยาวนานในที่สุดลูกสะใภ้ของเขาก็ได้มอบของขวัญอันล้ำค่าให้กับตระกูลหลิงด้วยเด็กน้อยผู้นี้
ทุกๆคนในตระกูลหลิงต่างระมัดระวังอย่างมากและดูแลเขาอย่างดีที่สุดราวกับว่าเขาเป็นเพียงเต้าหู้ก้อนเล็กๆ
แต่พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าในวันที่ควรมีความสุขเช่นนี้หลิงเทียนกลับเกือบจะถูกสังหารโดยหญิงสาวนางนี้แถมยังโจ่งแจ้งต่อสายตาของทุกคน
! นี่มันบ้าเกินไป ! มาจากตระกูลหยางแล้วอย่างไร
? อย่าคิดว่าตาแก่ผู้นี้ไม่กล้าที่จะฆ่าเจ้า !
หยางกงซุนตกอยู่ในความตื่นตระหนกและก้าวออกมาตอบ
“ ดยุคหลิง ทุกๆคนก็เห็นว่านี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด
! ” แน่นอนว่าพวกเขานั้นเป็นฝ่ายผผิด หยางกุงซุนได้สูญเสียความหยิ่งยะโสที่เขาได้แสดงออกไปก่อนหน้านี้ทั้งหมดไป
เขาได้ลดความหยิงยะโสลง…ในสถานการณ์เช่นนี้เหตุใดเขาจะต้องกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์อีก
?
หลิงซานหัวเราะออกมาเสียงดังสนั่นและกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ เข้าใจผิด ? ฮ่าๆๆ
เข้าใจผิด ? หยางกงซุน ไอ้แก่บัดซบ ! เจ้ายังกล้สบอกว่าเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิด
? หลายของข้าเกือบถูกฆ่าด้วยมือของลูกสาวของเจ้าและเจ้ายังกล้าพูดว่านี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด
?! ”
หยางกงซุนเต็มไปด้วยความโกรธหลังจากที่ถูกเรียกว่าไอ้แก่บัดซบ
แต่ยังไงก็ตามเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ในขณะที่เหงื่อเต็มใบหน้าของเขา หยางกงซุนจับแขนของหลิงซานและพูด
“ ตาแก่หลิง
ฟังข้าดีๆนะ เรื่องนี้มันเป็นการเข้าใจผิด … นี่ , นี่…บางครั้งอาจจะมีบ้างที่มือมันลื่น… ”
สีหน้าของหลิงซานเปลี่ยนไป
“ มือลื่น ? หยางกงซุน
ถ้าหากว่าตาแก่ผู้นี่มือลื่นบ้างล่ะ ? ” เสียงอันเย็นชาดังขึ้นมาพร้อมกับจิตสังหารที่ทะลักออกมาจากตัวของหลิงซาน
“ ถ้าหากตาแก่อย่างข้ามือลื่นไปโดนหลานทั้งสามของเจ้า… หยางกงซุน ไหนเจ้าลองบอกมาสิว่ามันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่ ?!
”
[1]: In China, the
emperor likes to address himself as "we" instead of "I".
[1] ในจีน
จักรพรรดิมักจะแทนตัวเองด้วยคำว่า “ เรา ”[We] มากว่าคำว่า “ข้า” [I]