บทที่ 2 ตายพร้อมกันไปให้หมด !



มันเป็นวันที่ 9 ของเดือนที่ ในปฎิทินจันทรคติคลื่นลมเย็นของฤดูใบไม่ร่วงพัดผ่าน ท้องฟ้ายามนี้เป็นสีน้ำเงินที่แสนสวยงาม

วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่วันเฉลิมฉลองที่มีความหมายสำหรับชาวจีนเท่านั้น แต่ยังคงเป็นวันที่สองตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศหรือแม้แต่โลกนี้กำลังจะมีงานแต่งงาน !

หญิงสาวของตระกูลหลิง หลิงเสวี่ยเอ๋อร์และนายน้อยของตระกูลหวง หวงเจี่ยหยุนกำลังจะไลฟ์สดออกอากาศงานแต่งงานของเขาไปทั่วโลกในวันนี้. โดยสถานที่จัดงานแต่งงานก็คือคฤหาสน์ของตระกูลหวงที่อยู่ในมหาสมุทรตะวันออก !

เดือนที่ผ่านมาตระกูลหวงนั้นได้ปรับปรุงคฤหาสน์หลังนี้ใหม่เพื่อให้มีลักษณะเหมือนกับพระราชวังเพื่อแสดงให้เห็นถึงความหรูหราและงดงามราวกับว่ามันนั้นออกมาจากภาพเขียน

เมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมา แขกหลายคนจากทั่วโลกต่างเริ่มมาถึงกันก่อนแล้ว พวกเขากลัวว่าจะพลาดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่และเป็นงานที่กำลังจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก เมื่อเวลาผ่านไป แม้เหล่าตัวละครหลักทั้งคู่มาไม่ถึงแต่คฤหาสน์ตระกูลหวงกลับเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ท้องฟ้าเต็มไปด้วยธงหลากสีที่กำลังสะบัดไปตามลมและคฤหาสน์หลังนี้ก็โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ

หลังจากนั้นไม่นานเสียงของเฮลิคอปเตอร์ดังสนั่น บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ ระหว่างนั้นเฮลิคอปเตอร์สองลำก็บินผ่านไปอย่างช้าๆ แสดงความยิ่งใหญ่อลังการให้กับผู้คนบนพื้นดินโดยมีเฮลิคอปเตอร์สีแดงเป็นตัวนำขบวนจากซ้ายไปขวานับแล้วมีเฮลิคอปเตอร์ถึงฝั่งละเก้าลำ สีสันของมันแตกต่างกันไปแต่ละลำและเมื่อพวกมันบินผ่านไปมามันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 19 ลำกำลังสร้างสายรุ้งอยู่บนฟากฟ้า  ภาพที่เห็นสามารถกล่าวได้แค่ว่า " เหนือจิตนาการอย่างยิ่ง ! "

นี่คือกองกำลังพิทักษ์ของตระกูลหลิง !

ในยุคที่ประเพณีการแต่งงานนั้นจำเป็นต้องมีรถของเจ้าบ่าวเจ้าสาวหนึ่งคันในงานแต่ง แต่สำหรับตระกูลหลิงนั้นต้องการจะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการใช้เฮลิคอปเตอร์ !

เมื่อฝูงบินได้แสดงถึงความอลังการและความหรูหรา ฝูงชนข้างล่างเข้ามาปรบมือดังสนั่นในทันที

ในเวลานี้เหล่าเฮลิคอปเตอร์ได้โปรยกลีบกุหลาบจากท้องฟ้าลงมาสู่พื้นดิน จำนวนของกลีบกุหลาบที่โปรยมานั้นได้บดบังการมองเห็นของทุกคนที่อยู่บนพื้น ท้องฟ้าต่างเต็มไปด้วยทะเลกลีบกุหลาบ หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ได้ลงจอดบนพื้นดิน ทั่วทั้งคฤหาสน์ต่างอบอวนไปด้วยกลิ่มหอมและทั้งสถานที่ก็ถูกย้อมไปด้วยสีแดงสด ท้องฟ้าที่เคยทอแสงในยามเช้า ก้อนเมฆที่ส่องสว่างระยิบระยับยามนี้ราวกับถูกฉุดกระฉากลงมาและเปลี่ยนให้คฤหาสน์ตระกูลหวงกลายเป็นสีแดงเลือด

หญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดเจ้าสาวสีขาวที่เก่าแก่บนใบหน้าของนางนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางดูราวกับว่าได้ลงมาจากท้องฟ้าในขณะที่เธอเดินบนกลีบกุหลาบเธอดูงดงามคล้ายกับนางฟ้า นางคือเจ้าสาวในงานแต่งของวันนี้ หญิงสาวจากตระกูลหลิง หลิงเสวี่ยเอ๋อร์

ฉากที่สวยงามนี้ทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง โดยเฉพาะการมาถึงอันแสนงดงามของนางทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นี้รู้สึกว่าตนเองนั้นต้อยต่ำลงไปทันที เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาใกล้ๆทุกๆคนต่างเปิดทางให้กับเธอในทันที

ในทะเลกลีบกุหลาบมีชายหนุ่มที่ดูอ่อนโยนยืนอยู่และเขาสวมชุดสูทสีดำซึ่งเขาก็คือหวงเจี่ยหยุนผู้เป็นเจ้าบ่าวในงานนี้และเป็นนายน้อยของตระกูลหวง เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองคนแล้วทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างรู้อยากร้องไห้อยู่ในใจ และคิดว่าเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบอะไรเช่นนี้ !

หวงเจี่ยหยุนรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะไม่มีใครเข้าใจเบื้องหลังของงานแต่งในวันนี้ไปมากกว่าเขา หลังจากงานแต่งเสร็จสิ้นเขาจะกลายเป็นที่พูดถึงในหมู่รุ่นเยาว์ของตระกูลหวง แม้แต่โลกนี้เขาก็จะกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจที่แท้จริง ! นอกจากนี้หลิงเสวี่ยเอ๋อยังเป็นผู้หญิงในฝันของเขา ในที่สุดวันนี้เขาสามารถเติมเต็มความทะเยอทะยานของเขาและนำความงดงามเข้าสู่บ้าน !

เขาไม่สนใจสายตาที่แสดงถึงความอิจฉาริษยาและการแสดงออกที่เกินหน้าเกินตาของเหล่าพี่น้องในตระกูลของเขา เพราะหลังจากวันนี้ พวกมันทุกคนต้องมารับใช้เขาตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจพวกมันแม้แต่น้อย ด้วยสถานะของเขาจะกลายเป็นดั่งรูปสลักหินที่มั่นคงและไม่มีอะไรมาเปลี่ยนมันได้ ในขณะที่หวงเจี่ยหยุนเดินไปข้างหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่งดงามและอ่อนโยน

บัดนี้ราวกับว่าพวกเขากลายเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล ทุกคนคุ้มกันเจ้าบ่าวและเจ้าสาวไปยังห้องโถงกลางและทุกอย่างนี้เป็นไปตามแผนการของหลิงเทียน !

งานแต่งงานของทั้งคู่นี้มีทั้งความยิ่งใหญ่และความรื่นเริงและเป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของจีน

เมื่อทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องโถงใหญ่เพื่ออวยพรแด่คู่บ่าวสาวจึงทำให้เสียงอวยพรดังกึกก้องอยู่ตลอดเวลา, “ น้องเสวี่ยเอ๋อร์ วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าและพี่ชายคนนี้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลถึงหกร้อยไมล์เพื่อมามอบของขวัญสุดพิเศษให้กับเจ้า ! ” เสียงนี้เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆด้วยน้ำเสียงที่ดังชัดเจน

หลิงเสวี่ยเอ๋อที่กำลังอยู่ในพิธีแต่งงานถึงกับสั่นสะท้าน ใบหน้าของนางปรากฎให้เห็นถึงความวิตกกังวลและความรู้สึกผิดออกมาในดวงตาทั้งคู่ของนาง

ท่าทางของทุกๆคนจากตระกูลหลิงได้เปลี่ยนไปในทันที พวกเขาจำได้อย่าชัดเจนว่าเจ้าของเสียงที่แสนจะเย็นชานี้เป็นเสียงของใคร ! พวกเขาไม่ได้ยินเสียงๆนี้มาถึง ปีและพวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินมันอีกครั้งในงานที่สำคัญเช่นนี้ !

ทุกคนจากตระกูลหลิงสาขาหลักไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้ว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นกับดักที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้ามานานแล้ว นอกจากนี้นั่นกับดับง่ายๆที่ใช้ผู้หญิงแค่คนเดียวและสามารถทำลายยอดอัจฉริยะของตระกูลสาขาลงได้ หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น เมื่อผู้อาวุโสของตระกูลได้คิดถึงเหตุกาณร์ในวันนั้นและคนที่เขาได้ทำลายลงไป พวกเขาจะเต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆมากมาย บางคนรู้สึกสงสาร ในขณะที่บางคนรู้สึกโกรธแค้น แต่ส่วนใหญ่นั้นจะรู้สึกโล่งใจและขอบคุณสวรรค์ราวกับว่ามีคนมายกภูเขาออกจากอกของพวกมัน

ทุกสายตานั้นหันไปจับจ้องที่ประตูทางเข้าสู่ห้องโถง

ในสายตาของทุกคนที่จ้องมอง ปรากฏชายหนุ่มชุดขาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ มือทั้งสองของเขาซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาเป็นคนสูงและมีร่างกายอันบอบบางราวกับอิสตรี ใบหน้าอันเรียบเฉยของเขาปรากฎรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากราวกับยิ้มเย้ยหยันเขาดูเป็นคนมีเอกลักษณ์และดูไร้กังวลราวกับเขาเป็นเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าที่กำลังล่องลอยไปตามกระแสลม.

ด้วยสัญชาติญาณของหวงเจี่ยหยุนทำให้มันรู้สึกได้ถึงความอันตรายที่มาจากชายหนุ่มในชุดขาวคนนี้  คุณเป็นใคร ? ”

หลิงเทียนนั้นรู้ว่าหวงเจี่ยหยุนกำลังคิดอะไรอยู่จึงหัวเราะอvกมาเบาๆ “ ไม่ต้องห่วงนายน้อยหวงฉันไม่ใช่ศัตรูด้านความรักของนายหรอก ฉันเป็นพี่ชายของเสวี่ยเอ๋อร์ นามว่าหลิงเทียน ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหวงเจี่ยหยุนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ โอ้พี่เขย ทำไมพี่เขยเพิ่งจะมาเอาป่านนี้ล่ะ ทำไมพี่ถึงไม่มากับพวกผู้อาวุโสแถมยังมาเพียงคนเดียวอีก? ” หวงเจี่ยหยุนพูดกับหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นกันเองแต่มันก็คิดอยู่ในใจเงียบๆว่าเสวี่ยเอ๋อร์มีพี่ชายที่วิเศษแบบนี้ด้วยหรือ?ทำไมเขาไม่เคยรู้มาก่อน?แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามหวงเจี่ยหยุนก็โล่งใจที่หลิงเทียนไม่ใช่พวกที่จะมาพาตัวเจ้าสาวไปจากเขา

ผู้อาวุโสหนึ่งของตระกูลหลิง หลิงจิ้งนั้นเดินขึ้นมาและตะโกนออกมาอย่างเคร่งเครียด “ หลิงเทียน  เราค่อยมาชำระเรื่องราวส่วนตัวกันในภายหลัง ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆแกจะมาสร้างปัญหาได้ !” หลิงจิ้งนั้นเป็นดั่งเฒ่าเจ้าเล่ห์ แน่นอนว่าเขาเริ่มรู้ว่าตอนนี้มีบางอย่างผิดปรกติ

หลิงเทียนหัวเราะออกมาดังลั่นพร้อมกับกวาดสายตาที่คมกริบมองไปรอบๆ “ ฮ่าๆ , คุณปู่หนอคุณปู่ ถ้าอย่างนั้นเวลาไหนกันที่ฉันจะสามารถสร้างปัญหาได้ ? เอ้ … หรือว่าเป็นตอนนี้ ฉันควรจะข่มขืนเธออีกครั้งดีมั้ย? ” ถึงแม้บนใบหน้าของหลิงเทียนจะประดับไปด้วยรอยยิ้มแต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมาผู้ฟังทุกคนต่างรู้สึกถึงความเย็นชาและความเกลียดชังในน้ำเสียงของเขา

เมื่อเหล่าผู้คนที่มาร่วมงานได้ยินคำพูดของหลิงเทียน บรรยากาศภายในห้องโถงนั้นก็เริ่มแปรเปลี่ยน แขกต่างๆต่างตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เจ้าหนุ่มนี่เป็นใคร? เหตุใดเขาถึงกล้าที่จะมาสร้างปัญหาในงานแต่งงานของสองตระกูลใหญ่? อย่าบอกนะว่าเขามีผู้มีอำนาจคอยบงการอยู่เบื้องหลัง? เหล่าผู้คนในห้องโถงต่างคาดเดากันไปต่างๆนา

ใบหน้าของหลิงจิ้งกลายเป็นเคร่งเครียดเพราะว่ามันรู้ว่าหลานของมันคนนี้ฉลาดมากและไม่มีทางที่หลิงเทียนจะทำอะไรโดยไม่ไตร่ตรองอย่างแน่นอน และตอนนี้เขาได้ปรากฎตัวขึ้น แน่นอนว่าวันนี้เหตุการณ์ท่าทางจะไม่สงบแน่ๆ แต่ยังไงก็ตามหลิงจิ้งไม่รู้หลิงเทียนมาทำอะไรที่นี่ แต่หลิงจ้งสามารถที่จะตกลงบางอย่างกับเขาเพื่อที่จะลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ให้น้อยที่สุด สถานการณ์ของคนตระกูลหลิงในตอนนี้เริ่มกระวนกระวาย

ชายหนุ่มคนนึงที่สวมชุดสูทสีดำพลันเดินเข้ามา “ ฉันก็นึกสงสัยว่าเป็นใครกันที่กล้าบังอาจมาป่วนงานในวันนี้ แท้จริงแล้วกลับเป็นสุภาพบรุษของตระกูลหลิงเรานี่เอง ฉันขอถามแกหน่อยนะ แกไม่ได้กินยาลืมเขย่าขวดมาใช่มั้ย? 

“ โอ้ นั่นไม่ใช่พี่ชายหลิงเชาที่เคารพรึ ? ฉันไม่ได้เจอนายตั้งนานแล้วนะพี่ชาย ก่อนหน้านี้พี่ชายทำให้ฉันซาบซึ้งมากในความเมตตาของพี่ ห้าปีแล้วสินะ ตั้งห้าปีที่ฉันเอาแต่คิดถึงพี่ทุกวันจนนอนไม่หลับ ! ” (แค้นสุดๆ) หลิงเฉานั้นเป็นคนที่ทำให้หลิงเทียนได้รับความอัปยศมากที่สุดตั้งแต่ที่เขาถูกทำลายการบ่มเพาะไป

หลิงเชาฝืนยิ้มขึ้นมาเบาๆ “ จริงรึนี่ ? ฮ่า ฮ่า ฉันก็คิดถึงนายมากๆเหมือนกัน ฉันมักจะกังวลเสมอว่าเศษขยะตามตลาดจะตกถึงท้องของนายรึเปล่า ฉันกลัวว่านายจะอดอยากจริงๆนะ  หลิงเชาแสร้งทำท่าทางเป็นกังวลพร้อมกับทำหน้าตาเคร่งเครียด

“ ฮ่ะๆๆ มั่นใจได้เลยพี่ชาย เพราะถ้าพี่ชายหลิงเทียนหาเศษอาหารที่พี่ชายทิ้งไว้ไม่เจอ เขาก็ไม่จำเป็นต้องทนหิวหรอกเพราะที่ตลาดพวกผักมักจะถูกโยนทิ้งทุกวัน ฉันแน่ใจว่าพี่ชายเทียนต้องเพลิดเพลินไปกับมันแน่ ! ” เสียงอันแหบแห้งจากรุ่นเยาว์อีกคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของหลิงเชาตะโกนขึ้นมา

“ เจ้าพวกโง่ ! ” หลิงจิ้งสาปแช่งพวกมันทั้งสองในใจ สำหรับหลิงเทียนที่กล้าจะเปิดเผยตัวแปลว่าเขาต้องมีแผลการแก้แค้นอะไรบางอย่างยิ่งหลิงเทียนเป็นคนที่ฉลาดมากทุกคนที่อยู่ที่นี่ในตอนนี้กำลังตกอยู่อันตรายแล้ว แต่เจ้าพวกโง่สองตัวนั่นมันยังมีหน้ามีเติมเชื้อเพลิงและข่มเห่งหลิงเทียนอีก !

หลิงเสวี่ยเอ๋อก้าวเข้ามาช้าๆด้วยใบหน้าที่อ่อนหวาน  “ พี่เทียน น้องสาวคนนี้ทำให้ท่านต้องลำบากแล้ว แต่เรื่องราวมันก็ผ่านมาตั้งหลายปีและวันนี้ก็เป็นวันที่สำคัญมากๆของน้องสาวคนนี้ เหตุใดท่านไม่ไปเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารชั้นดีที่พวกฉันเตรียมไว้เล่า? 

หลิงเทียนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและตอบกลับด้วยความสุภาพ “ น้องสาวตัวน้อย เสวี่ยเอ๋อร์ เหตุใดเธอต้องเคร่งเครียดนักเล่า เรื่องราวในอดีตนั้นผ่านมานานแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ แต่ตอนนี้ ฉัน หลิงเทียนมาที่นี่เพราะในใจของฉันมันร่ำร้องให้ฉันต้องออกมากล่าวอะไรสักเล็กน้อย 

หลิงเสวี่ยเอ๋อร์ขมวดคิ้วและถามด้วยสายตาที่ชวนให้หลงใหล “ ฉันสงสัยว่าอะไรที่ทำให้พี่ชายเทียนไม่สามารถปล่อยวางได้? ถ้าหากน้องสาวคนนี้สามารถช่วยได้ ฉันจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่แน่นอน 

ดวงตาของหลิงเทียนเริ่มเย็นลงและพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูแจ่มใส  มันคือสะพาน...สะพานไน่เหอที่ฉันคิดว่าฉันควรจะไปอยู่ที่สะพานเส้นนั้นตั้งนานแล้ว แต่ว่าฉันมักจะไม่มีความกล้ามากพอที่จะทำมัน …แต่...”

หลิงเชานั้นขัดจังหวะการพูดของหลิงเทียนด้วยเสียงหัวเราะก่อนจะพูดเยาะเย้ย “ นั่นเพราะแกยังกินเศษขยะไม่มากพอ แกเลยยังไปไม่ได้ยังไงล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ” 

หลิงเทียนไม่สนใจเขาและพูดต่อ “แต่…วันนี้ฉันพร้อมที่จะก้าวลงไปในยังสะพานไน่เหอแล้ว แต่ทว่าแค่นั้นฉันยังไม่ค่อยพอใจ 

หลิงจิ้งรู้สึกไม่ค่อยดีจึงเอ่ยถามต่อ “ แกยังไม่พอใจอะไรอีก? 

หลิงเทียนมองไปยังทุกคนที่อยู่ที่นี่พร้อมกับระเบิดหัวเราะดังลั่น “ ฉันไม่พอใจที่เห็นพวกขยะรกโลกอย่างพวกแกยังยืนอยู่อย่างสุขสบายเพราะงั้นวันนี้ฉันจะลากพวกแกไปพร้อมกับฉัน ตายพร้อมกันไปให้หมด !!! ฮ่าฮ่าฮ่า !!! ”

ผู้นำตระกูลหวงรู้สึกตกใจทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของหลิงเทียน เขาไตร่ตรองในความคิดอย่างบ้าคลั่งว่าหลิงเทียนกำลังจะใช้วิธีอะไร  ระเบิด ? 

หลิงเทียนหันไปหาผู้นำตระกูลหวงและยกย่องเขา  สมควรแล้วที่คุณเป็นถึงหัวหน้าตระกูลหวง ลางสังหรณ์ของคุณดีมาก  

หลิงจิ้งได้ยินก็ตะโกนลั่น “ เร็วเข้า จับตัวมันไว้ อย่าให้มันได้จุดชนวนระเบิด !! ” ทันทีที่เขาตะโกน เขาก็พุ่งตัวเข้าไปหาหลิงเทียนโดยทันที เขารู้ตัวดีว่าแม้ว่าจะจับหลิงเทียนได้ตอนนี้มันก็คงสายเกินไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะหาทางหนีเป็นอันดับแรกเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้

หลิงเทียนมองไปยังท้องฟ้าและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ มันสายไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า มันสายเกินไป ถ้าพวกแกตัดสินใจที่จะหนีตั้งแต่ตอนที่ฉันเดินเข้ามาบางทีพวกแกอาจจะมีสิทธิ์รอด แต่ตอนนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า ” สิ้นเสียงหัวเราะของหลิงเทียน เสียงระเบิดดังลั่นมาจากทั่วทั้งคฤหาสน์ ทั้งด้านในและด้านนอก ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ที่นี่แทบจะยืนไม่ได้เพราะแรงสั่นสะเทือนนั้นรุนแรงมาก อาคารต่างๆที่อยู่ในเขตคฤหาสน์นี้ต่างกลายเป็นเศษฝุ่นและเต็มไปด้วยเปลวเพลิง เสียงร้องขอความช่วยเหลือและทุกข์ทรมานกระจายไปทั่ว แม้แต่จุดที่จอดเฮลิคอปเตอร์ไว้ก็กลายเป็นทะเลเพลิง สถานการณ์ตอนนี้คล้ายกับว่าเป็นจุดสิ้นสุดของโลก

แม้กระทั่งหลิงเทียนก็ไม่สามารถจะยืนได้เพราะแรงสั่นสะเทือนจากระเบิด เขานั่งอยู่บนพื้นและหัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นผู้คนมากมายพยายามดิ้นรนหวังให้ตนนั้นรอด  ไม่ต้องพยายามหาที่ปลอดภัยหรอก แม้ว่าระเบิดพวกนี้จะไม่แรงเท่ากับระเบิดปรมาณูที่อเมริกาใช้กับญี่ปุ่น แต่บอกได้เลยว่ามันก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก ฮ่าฮ่าฮ่า ! ”

ใบหน้าของหลิงเชากลายเป็นเหี้ยมโหดและวิ่งไปหยิบมีดสั้นที่เอาไว้ตัดเนื้อออกมา “ หลิงเทียน แม้ว่าพวกฉันจะตายแต่แก … แกต้องตายก่อน !!” จากนั้นหลิงเชาก็พุ่งไปหาหลิงเทียนพร้อมกับมีดสั้นของเขา

หลิงเทียนไม่แม้แต่จะหลบ เขาปล่อยให้มีดนั้นแทงทะลุเข้าไปในอก ปล่อยให้เลือดไหลอาบร่างกายและล้มตัวนอนลงกับพื้น เสียงหัวเราะของหลิงเทียนค่อยๆเงียบไปพร้อมกับลมหายใจของเขา

เสียงระเบิดลูกที่รุนแรงที่สุดดังขึ้น กฎเป็นรูปเห็นบนท้องฟ้าแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของระเบิดลูกนี้ คฤหาสน์ตระกูลหวงนั้นไม่มีอีกต่อไปมันถูกแทนที่ด้วยหลุมลึก ! หลังจากเหตุการณ์เกาะของตระกูลหวงที่อยู่ในมหาสมุทรตะวันออกก็ไม่มีอีกต่อไป !

.....


ห่างไปสองถึงสามกิโลเมตรมีหญิงสาวคนหนึ่งอยู่บนหุบเขาเธอแต่งกายด้วยชุดสีดำราวกับกำลังไว้อาลัยผู้ที่จากไป หยดน้ำตาไหลรินสู่พื้น ใบหน้าอันงดงามเต็มไปด้วยคราบน้ำตาหญิงสาวในชุดเดรสสีดำนี้ปักธูปสามดอกลงสู่พื้นดินพร้อมกับโค้งตัวคำนับอยู่เนิ่นนาน “ พี่เทียน ขอให้ไปสู่สุขคตินะ ! ”


 ____________________________________________________________________



[1] ในวันที่ ของเดือนที่ ในปฎิทินจันทรคติ มันเป็นเทศกาลที่เรียกว่าเทศกาลหยางคู่ [ เลข 9 ของจีนเป็นเลขหยาง ] หรือเรียกอีกอย่างว่าเทศกาลฉงหยาง (หาข้อมูลได้ในกูเกิ้ลหากใครไม่รู้ว่ามันคือเทศกาลอะไร)

.....


ติดตามข่าวสารได้ที่เพจนี้เลยครับ