บทที่ 6 ในที่สุดข้าก็เกิด


หลิงเทียนรู้สึกราวกับว่าเขาได้ใช้พลังของเขาไปเกือบหมดและกำลังจะสลบไปเพราะความอ่อนล้า ในขณะที่มารดาของเขากำลังร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในที่สุดจากความพยายามของมารดาและบุตร หลิงเทียนก็ได้ยินเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “  ออกมาแล้ว เด็กออกมาแล้ว พระเจ้าช่วย เขาตัวใหญ่มาก ! ” หลังจากนั้นหลิงเทียนก็รู้สึกผ่อนคลาย ‘ โอ้แม่เจ้า ในที่สุดข้าก็ได้เกิด ข้ารู้สึกเหนื่อยจริงๆ ! ’ จากนั้นเขาก็หมดสติและหลับไป


ในห้องคลอด หมอตำแยได้เช็ดใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อและมองไปยังทารกที่เพิ่งคลอด จากนั้นนางก็สูดลมหายใจเย็นๆเข้าปอดอย่างหนักหน่วงและคิดกับตัวเองว่า  พระเจ้า เด็กคนนี้ตัวหนักมาก ! ข้าเกรงว่าอย่างน้อยเขาก็หนักมากกว่า 10 ชั่ง ! (5 กิโล)


จากนั้นนางก็มองไปยังมารดาของเด็กน้อยผู้นี้ที่ยังไม่ได้สติอยู่บนเตียงพร้อมกับความกลัว มองไปที่ร่างเล็กๆและใบหน้าที่สวยงามของมารดา นางทำได้เพียงแค่อธิษฐาน “ เด็กที่ตัวใหญ่เช่นกับมารดาที่ดูอ้อนแอ้น แต่ทั้งเด็กและมารดาสามารถคลอดได้อย่างปลอดภัย มันคงเป็นพรจากสวรรค์ อามิธตาพุทธ ! ”


ข่าวเกี่ยวกับความปลอดภัยนี้ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ชายที่นั่งอยู่ในห้องพักรีบวิ่งไปยังห้องคลอดเพื่อไม่ให้ช้าแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ชายคนนั้นสูงถึง 1.9 เมตรใบหน้าคมเค้ม คิ้วของเขาขมวดเป็นปมด้วยความกังวล จากมุมมองของหลิงเทียน ชายผู้นี้คงจะเป็นคนที่มีอำนาจมาก ตอนนี้ใบหน้าของชายผู้นี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายกังวล ความห่วงใยและอ่อนโยน ความรู้สึกทั้งหมดนี้ถูกแสดงออกมาทางสีหน้าของชายผู้นี้ เขารีบเข้ามาอุ้มนายน้อยตัวเล็กๆผู้นี้ก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยความกังวล “ ถิงเอ๋อ เจ้าเป็นยังไงบ้าง ? ”


หลิงเทียนที่ถูกห่อด้วยผ้านั้นได้ตื่นขึ้นมาและหายใจรับอากาศที่บริสุทธิ์ภายนอกนี้เป็นครั้งแรก จากนั้นเขารู้สักคันจมูกและจามออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เสียงหัวเราะราวกับคนบ้าดังขึ้น  เจ้าเพื่อนตัวน้อย พอคนอื่นอุ้มล่ะนิ่งเชียวแต่พอข้าอุ้มเจ้ากลับละเลงหน้าข้าด้วยน้ำมูกและน้ำลาย ฮ่าฮ่า… ” ในน้ำเสียงไม่มีความโกรธเคืองแม่แต่น้อยมีเพียงความสุข ความภาคภูมิใจและยิ่งกว่านั้นมีความพึงพอใจอยู่ในน้ำเสียงนี้ ราวกับเขาภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยน้ำมูกและน้ำลายโดยหลานชายของเขา


ขณะที่หลิงเทียนได้ยินเสียงนี้มันทำให้เขารู้สึกพอใจกับชายชราคนนี้ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำมูกและน้ำลายแต่มันก็ยังเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม หลิงเทียนสัมผัสได้ว่าเป็นน้ำเสียงที่ออกมากจากความสุขจริงๆ


ขณะที่เขากำลังเปิดตาเขาก็เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอย ศรีษะของเขาเต็มไปด้วยผมสีขาวคราวกับเกล็ดหิมะ ร้อยยิ้มของเขากว้างซะจนปากของเขาแทบจะแตะถึงหู


หลิงเทียนชอบในตัวชายชราผู้นี้ที่หัวเราะราวกับคนบ้า อดไม่ได้ที่มันจะทำให้เขายิ้มแบบเหยียดหยามออกมา


“ วะฮ่าฮ่าฮ่า ! ดูสิ เขากำลังยิ้ม หลานชายของข้ากำลังยิ้มให้ข้า ฮ่าฮ่าฮ่าเขาเป็นหลานชายของข้าจริงๆ เขากำลังยิ้มหลังจากที่เขาเห็นปู่อย่างข้า วะฮ่ะฮ่า… ” ชายชราผู้นี้หัวเราะซะจนน้ำลายของมันเริ่มกระเด็นใส่หน้าของหลิงเทียน หลิงเทียนพูดไม่ออกทำได้เพียงคิด ‘ ท่านแค่หัวเราะตามที่ท่านต้องการ แต่มันจำเป็นด้วยเหรอที่ต้องประทานเม็ดฝนในปากเหล่านั้นมาให้ข้า ? ’


หลิงเทียนแทบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาหลังจากที่เขาคิดอะไรบางอย่างกับตัวเอง… ‘ ข้าไม่ได้หัวเราะออกมาด้วยความสุขหลังจากข้าเห็นท่าน… มันก็แค่ยิ้มของท่านมันเหมือนกับที่ข้าจินตนาการไว้และมันหยาบช้าเกินไป นี่สินะปู่ของข้าในโลกนี้


ยี๊ ตาแก่ เจ้ากลายเป็นบ้าอีกแล้วนะ นี่เจ้าต้องการทำให้หลานช้าของข้าขวัญผวาด้วยเสียงหัวเราะของเจ้ารึไง ? อั้ยหยา ดูที่แขนหนาและเทอะทะของเจ้าสิ เจ้าจะฆ่าเด็กหรืออย่างไร ? มาปล่อยเขามาให้ข้า ส่งเขามาให้จาเดี๋ยวนี้ อืมมม , หลายชายคนดี ให้ย่าให้กอดเจ้าฮ่าฮ่าฮ่า ดูเขาสิหน้าตาดีเชียว ตาดวงเล็กๆคู่นี้และจมูกของเขาคล้ายกับบิดาของเขามาก ” ถัดจากชายชรา หญิงชราที่ดูใจดีคว้าหลิงเทียนเข้ามากอดราวกับเขาเป็นสมบัติ


 จริงรึ? ท่านป้า เหตุใดใบหน้าของเด็กคนนี้ถึงมีริ้วรอยมากนัก ? เขาดูเหมือนกับชายชราตัวเล็กๆ ข้าบอกไม่ได้เลยว่าเขาเหมือนพี่ชายตรงไหน… ” อยู่ๆก็มีเสียงที่ฟังดูน่ารำคาญดังออกมา


แต่ก่อนที่คนๆนี้จะพูดจบ ก็มีเสียงแหบแห้งดังออกมา “ ถ้าแกไม่พูดอะไรดีๆก็ไปที่อื่นเลยไป! ”


“ พี่สี่กล่าวถูกต้องแล้ว อั้ยหยา… ท่านป้า ดูดีๆสิ เหตุใดศรีษะของเด็กน้อยผู้นี้ถึงผอมและยาวนัก ? มันดูน่าเกลียด… ” เสียงของหญิงสาวบ่นอู้อี้


 ฮึ่ย เจ้าไปจะรู้อะไร? มองดูที่จมูกของเจ้าหนูนี่สิ คิ้วกับตาทั้งสอง ทั้งหมดเหมือนกับโดนดึงออกมาจากหน้าของพี่ใหญ่ของเจ้า ดูสิตาแก่ เจ้าว่ามั้ย? ”


หลิงเทียนรู้ได้ทันทีว่าย่าของเขานั้นเป็นคนที่เกือบจะไร้เหตุผล เขาเพิ่งจะเกิดมาและได้ใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์เคลื่อนกระดูกเพื่อให้หัวของเขาเล็กและยาว ถ้าหากว่านางสามารถมองเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างบิดดาของเขาก็แปลว่านางมองผ่านทักษะนี้และเห็นทุกสิ่ง !


“ อืมมมมมมม , แน่นอน เด็กน้อยคนนี้ดูเหมือนบิดาของเขา หลิงเซี่ยว แค่เพียงแป๊ปเดียวกลายเป็นว่าเรากลายเป็นปู่กับย่าไปแล้ว แค่มองไปที่เด็กน้อยนี่นิดเดียวข้าก็แน่ใจเลยว่าเขาเป็นเด็กของตระกูลหลิงของข้า วะฮ่าฮ่าฮ่า… ” หลังจากนั้น ย่าของเขาก็ผิวปากเป็นจังหวะและอุ้มเขาไปมาตามจังหวะนั้น


สุดยอด คนแก่ทั้งสองนี่น่าอัศจรรย์สุดๆ พวกเขาสามารถมองเห็นจุดที่มีความคล้ายคลึงก่อนที่ลักษณะหน้าตาของเด็กน้อยผู้นี้จะเปลี่ยนไปจากทักษะศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเป็นตัวตนที่สามารถเรียกได้ว่าสุดยอด


หลังจากนั้น หลิงเทียนก็ตกอยู่ในอาการมึนเมาจากการเหวี่ยงไปมา พวกคนแก่ราวกับเห็นเขาเป็นสมบัติที่หายากและไม่ยอมปล่อยมือออกจากมัน !


“ อั้ยหยา นายน้อยผู้นี้ช่างหล่อเหลายิ่งนัก… ” จู่ๆใครบางคนก็พูดขึ้นมา


“ ใช่แล้ว ใช่แล้ว ! มองไปที่นัยน์ตาของเขาสิ พวกมันดูเหมือนกับเต็มไปด้วยพลัง ! ”


“ ดูที่แขนคู่เล็กๆนั้นของเขา มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง เขาจะกลายเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตเป็นแน่ ! ” คนอื่นๆเริ่มพยายามประจบประแจง


“ ไม่สิ ดูที่ตาของเขา มันเต็มไปด้วยภูมิปัญญา นายน้อยจะต้องกลายเป็นอัจฉริยะแน่นอนเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะต้องกลายเป็นอย่างน้อยมหาอุปราชเป็นแน่ ” คนผู้นี้ช่างมหัศจรรย์ยิ่ง ! แม้ว่าข้ากำลังปิดตาอยู่แต่นางก็ยังบอกว่าตาของข้าเต็มไปด้วยภูมิปัญญา !


"..."


"..."


กลายเป็นเรื่องราวที่วุ่นวายและหลิงเทียนเกือบจะเป็นลมจากเสียงของเหล่าบรรดาญาติพี่น้องทั้งหลายของเขา แต่พอเขากำลังจะแกล้งร้องไห้ เขาก็รู้สึกทันทีว่ามีบางอย่างแปลกๆ เขารับรู้ได้ถึงจิตสังหารกำลังเข้ามาใกล้เขา ทันใดนั้นเขาก็เปิดตาออกทันที


ด้านหน้าของเขามีชายหนุ่มอายุราว 27 ปีและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และพอเขามองไปที่นัย์ตาของหลิงเทียน คำสรรเสริญเยินยอต่างๆก็ไหลทะลักออกมาจากปากของเขาราวกับว่ามันออกมาจากใจ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือการกระทำ พวกมันดูเหมือนเต็มไปด้วยความธรรมชาติและความจริงใจ !


หลิงเทียนได้เตียงเพียงถอนหายใจด้วยความเวทนา ถ้าหากคนผู้นี้ได้เกิดอยู่ในชาติที่แล้วของข้าด้วยการแสดงของมันนี้ ข้าแน่ใจว่ามันต้องได้รางวัลออสก้าเป็นแน่ ไอ้นี่มันแสดงได้ดีเกินไป !


ไม่มีใครรับรู้ถึงอารมณ์ที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของเขาได้ แต่พอเขามองไปยังใบหน้าของหลิงเทียนความเกลียดชังที่มีต่อทารกผู้นี้เขาก็ซ่อนมันไว้ไม่ไหว ! … จากมุมมองของหลิงเทียนเขาสามารถมองเห็นสายตาอันเย็นชาของคนอื่นๆอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดจากจิตสังหารที่แผ่ออกมามากมาย


คนผู้นี้อันตราย หลิงเทียนรู้สึกตื่นตระหนก !


หลังจากที่ชายหนุ่มผู้นั้นบางอย่างเล็กน้อยเขาก็ผละจากหลิงเทียนและไปสังสรรค์กับคนอื่นๆที่อยู่ในห้องนี้ ชายคนนั้นบางทีก็กลายเป็นคนบ้าบอคอแตกอยู่เป็นพักๆและพูดคุยกับคนอื่นๆด้วยเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน… ‘ ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นในครอบครัว นอกจากนี้เขาดูสนิทสนมกับคนอื่นๆเป็นอย่างมากและดูมีอำนาจ ’


หลิงเทียนได้สลักใบหน้าของชายผู้นั้นไว้ในความทรงจำของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ลืมใบหน้ามัน เขาเป็นคนแรกที่หลิงเทียนต้องกำจัดออกไปให้พ้นทาง เพราะหากปล่อยคนที่ดูอันตรายอย่างมันไว้ข้างๆจะเป็นอันตรายในอนาคตของเขาและตระกูล !


หลิงเทียนหัวเราะอยู่ภายในใจ ‘ เมื่อแกกล้าที่จะเปิดเผยเจตนาฆ่าของแกต่อหน้าฉัน เมื่อนายน้อยผู้นี้โตขึ้นนายน้อยผู้นี้จะให้แกได้สนุกกับความตายของแกแน่นอน ! บางทีหากเป็นเพียงเด็กทารกปกติจะไม่สามารถสัมผัสถึงจิตสังหารของแกได้ แต่นายน้อยผู้นี้แตกต่าง นายน้อยผู้นี้ใช้เวลาตลอดทั้ง 25 ในการซ่อนความรู้สึกเหมือนที่แกทำ บังอาจมากที่กล้ามาแสดงความสามารถอันน้อยนิดต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญเช่นข้า !


ทันใดนั้นสาวใช้ก็เดินเข้ามาและพูด “ รายงานนายหญิงใหญ่ นายหญิงเล็กฟื้นแล้วและต้องการเห็นลูกชายเจ้าค่ะ ”


“ โอเค โอเค ได้ๆ … ฮ่าฮ่า หญิงชราผู้นี้จะพาหลานรักของข้าไปหานางเอง เฮ้อ มันคงลำบากมากสำหรับหญิงสาวตัวเล็กๆเช่นนาง เจ้าเด็กอ้วนน้อย ข้าสงสัยว่าร่างกายที่ดูดอ้อนแอของนางสามารถจัดการกับเจ้าได้อย่างไร ซุปบำรุงในห้องครัวพร้อมแล้วใช่มั้ย? นำมันมาโดยเร็วและมอบให้ถิงเอ๋อร์เพื่อรักษาอาการอ่อนล้าของนาง ” หญิงชรากล่าวออกมาด้วยความห่วงใย


ครู่ต่อมา หลิงเทียนก็รู้สึกถึงความอบอุ่น ในอ้อมกอดนี้เขารู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดและคุ้นเคย ในเวลาที่เขาได้อยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาวคนนี้ หลิงเทียนรู้สึกถึงความสุขและพึ่งพาได้ราวกับว่าต่อให้พายุพัดผ่านมาก็ไม่สามารถจะสร้างอันตรายให้เขาได้แม้แต่น้อยตราบใดที่เขาอยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาวผู้นี้


หลิงเทียนรู้ว่าอ้อมกอดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากมารดาของเขา ตั้งแต่ที่หลิงเทียนเข้ามาโลกนี้จากเส้นทางสู่ปรภพโดยที่ยังมีความทรงจำมาจากชาติที่แล้ว เขายังคิดว่าเขาต้องรู้สึกอึดอัดใจมากที่ต้องเผชิญหน้ากับมารดาของตัวเองทั้งๆที่เขาเป็นวิญญาณที่มีอายุตั้ง 25  ปีในร่างกายของเด็กทารก


แต่เมื่อหลิงเทียนเปิดตาของเขาและมองเห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนและความรักที่ไม่สิ้นสุดของนาง ทำให้หลิงเทียนรู้สึกถึงความรู้สึกใกล้ชิดระหว่างบุตรและมารดา


ในช่วงเวลานั้นราวกับว่าจิตใจของเขาได้กลับมาในช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาในตอนที่เขากำลังเพลิดเพลินและมีความสุขในวัยเด็กกับแม่ของเขา หลิงเทียนรู้สึกว่าหัวใจของเขาบีบรัดจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้


หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของเขายังคงมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและเส้นผมที่เปียกปอนไปด้วยหยาดเหงื่อ แต่ในสายของของหลิงเทียนทุกอย่างนั้นยังคงดูสวยงามและความกตัญญูก็ก่อเกิดเต็มไปในหัวใจของเขา ช่วงเวลานี้หลิงเทียนตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ตองประสบกับความเสียใจใดๆ โดยไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น จะต้องไม่มีใครสามารถทำร้ายผู้หญิงคนนี้ เพราะนางคือแม่ของข้าหลงเทียน !


ลูกเอ๋ยอย่าได้ร้องไห้ แม่ของเจ้าอยู่ที่นี่อย่าได้กลัว แม่จะปกป้องเจ้าเอง ” มารดาของหลิงเทียนค่อยๆโยกเขาไปมาเบาๆ ทันใดนั้นจิตใจของหลิงเทียนก็รู้สึกสงบ ความรู้สึกเมื่อยล้าได้พลันหายไปและหลิงเทียนก็หาวออกมาจากนั้นก็ปิดตาลงและเข้าสู่นิทรา



ไม่ว่าจะในชีวิตนี้หรือก่อนหน้านี้ ตลอดทั้ง 26 ปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงเทียนสามารถนอนหลับได้โดยไม่ต้องกังวลปัญหาใดๆ !


____________________________________________________________________

https://www.facebook.com/readlolt/

ฝากเพจนิยายด้วยครับ